ดาวโจนส์ยังร่วงต่อ เคลื่อนไหวลดลงกว่า 250 จุด ภาวะเงินเฟ้อ-ดอกเบี้ยขึ้น

.นักลงทุนยังคงขายหุ้นต่อเนื่อง กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดไว้
.นักวิเคราะห์ให้น้ำหนัก 75% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย.
.ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 428,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

เมื่อเวลาประมาณ 22.45 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ32,747.16 จุด ลดลง 250.81 จุด หรือ -0.76% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,193.75 จุด ลดลง 123.94 จุด หรือ -1.01% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,117.99 จุด ลดลง 28.88 จุด หรือ -0.70%

นักลงทุนยังคงเทขายหุ้นต่อเนื่อง โดยมองว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง จะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงต่อเนื่อง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 428,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 400,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5%

นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลกสู่ระดับ 3.121% ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งจะทำให้บริษัทต่างๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

ตลาดยังคงกังวลกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่สูงกว่าคาด โดยมีแนวโน้มที่เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนมิ.ย. แม้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่าเฟดยังไม่ได้พิจารณาเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงขนาดนั้นก็ตาม

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 75% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 19% เมื่อเดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมมากกว่า 2.00% ในปีนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นแตะระดับ 2.85% ในช่วงสิ้นปีนี้