ดาวโจนส์มีความหวัง ยอดค้าปลีกดีขึ้น ปิดบวก 369 จุด

  • บริษัทค้าปลีก และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านพาเหรดประกาศผลประกอบการดีกว่าคาด
  • ราคาน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่อง หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน
  • นักลงทุนคาดธนาคารสหรัฐ (เฟด) จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 20พ.ค.ที่ 24,575.90 จุด เพิ่มขึ้น 369.04 จุด หรือ +1.52% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,971.61 จุด เพิ่มขึ้น 48.67 จุด หรือ +1.67% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,375.78 จุด เพิ่มขึ้น 190.67 จุด หรือ +2.08%

ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะค้าปลีก และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เป็นปัจจัยหนุนตลาดปิดในแดนบวก โดยทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรในไตรมาสแรกที่ระดับ 59 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 40 เซนต์/หุ้น

ขณะที่โลว์ส ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรในไตรมาสแรกที่ระดับ 1.77 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.32 ดอลลาร์/หุ้น

และก่อนหน้านี้ วอลมาร์ท และโฮม ดีโปท์ แสดงผลประกอบการที่ดีกว่าคาดเช่นกัน ช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจและภาคธุรกิจของสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นหลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

โดยรายงานระบุว่า ขณะนี้รัฐต่างๆในสหรัฐเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์และเตรียมเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ก่อนที่จะถึงวันหยุด Memorial Day ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่าธนาคารสหรัฐ (เฟด) จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากรายงานการประชุมเฟดซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 28-29 เม.ย.ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่กังวลว่าผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐเผชิญกับความเสี่ยง และความไม่แน่นอนอย่างมากในระยะกลางนี้

รายงานการประชุมของเฟดระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2 อาจจะทรุดตัวลงในอัตราที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคครัวเรือนที่ประสบปัญหาด้านการเงินมากที่สุด นอกจากนี้ กรรมการเฟดยังแสดงความกังวลว่า การเลิกจ้างพนักงานแบบชั่วคราวอาจจะกลายเป็นการถาวร โดยพนักงานที่ถูกเลิกจ้างอาจจะสูญเสียทักษะพิเศษในการทำงาน และต้องออกจากตลาดแรงงานในที่สุด

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหุ้นโดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 3.27% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ทะยานขึ้น 7.17% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 3.79% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 4.17%

หุ้นเฟซบุ๊ก ทะยานขึ้น 6.04% หุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 1.98% หุ้นแอปเปิล บวก 1.94% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.53% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.39%

หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปรับตัวลง 0.9% หลังจากบริษัทประกาศยุติการขายแป้งเด็กในสหรัฐและแคนาดา เนื่องจากยอดขายลดลงอย่างมาก ท่ามกลางคดีฟ้องร้องหลายหมื่นคดีที่กล่าวหาว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวของบริษัทมีสารก่อมะเร็ง