

- ใกล้ความจริง พรรคเดโมแครตมีโอกาสสูงชนะเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารัฐจอร์เจีย
- นักลงทุนซื้อหุ้น หวังรัฐบาลใหม่เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ
- ผู้ประท้วงบุกสภาหนุนทรัมป์-ขวางไบเดนขึ้นประธานาธิบดี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 6ม.ค.พุ่งรับประธานาธิบดีคนใหม่จากพรรคเดโมแครต ที่ 30,829.40 จุด เพิ่มขึ้น 437.8 จุด หรือ +1.44% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,748.14 จุด เพิ่มขึ้น 21.28 จุด หรือ +0.57% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 12,740.79 จุด ลดลง 78.17 จุด หรือ -0.61%
นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มอุตสาหกรรมและหุ้นบริษัทยาอย่างคึกคัก โดยหุ้นกลุ่มธนาคารที่พุ่งขึ้นกว่า 4% เนื่องจากคาดว่า หากพรรคเดโมแครตได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารัฐจอร์เจีย ก็จะทำให้ทางพรรคสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรส ซึ่งจะเอื้อต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19
ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มธนาคารยังได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1% เมื่อคืนนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนผลประกอบการของภาคธนาคาร
ทั้งนี้ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 5.39% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 4.65% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ทะยานขึ้น 6.21% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 5.74%
ส่วนหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 5.56% หุ้น 3M บวก 1.52% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) พุ่งขึ้น 5.48%
หุ้นโมเดอร์นา ทะยานขึ้น 6.48% หลังจากวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของโมเดอร์นาได้รับการอนุมัติจากสำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) ให้ใช้ในสหภาพยุโรป โดยวัคซีนของโมเดอร์นานับเป็นวัคซีนตัวที่ 2 ที่ผ่านการอนุมัติของ EMA หลังจากที่สหรัฐและอังกฤษได้ให้การอนุมัติก่อนหน้านี้
หุ้น AmerisourceBergen ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 8.60% หลังจาก AmerisourceBergen ประกาศเข้าซื้อธุรกิจการจัดจำหน่ายยาของบริษัท Walgreens Boots Alliance ในวงเงิน 6.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายธุรกิจในยุโรป ขณะที่ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้น Walgreens พุ่งขึ้น 4.54%
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง1.81% ฉุดดัชนีแนสแด็ก ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าหากพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรส จะทำให้มีการออกมาตรการปรับขึ้นอัตราภาษี และออกกฎระเบียบคุมเข้มบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 2.82% หุ้นแอมะซอนดอทคอม ดิ่งลง 2.49% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.59% หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 3.32% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดิ่งลง 3.9%
อบ่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากกรณีกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาสหรัฐ ส่งผลให้ต้องมีการอพยพผู้คนออกจากอาคารรัฐสภา และทำให้สภาคองเกรสต้องระงับการประกาศรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของนายโจ ไบเดน เป็นการชั่วคราว
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้การอารักขารองปธน.ไมค์ เพนซ์ ซึ่งเป็นประธานในการประกาศผลการนับคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง ขณะที่นางมูเรียล บาวเซอร์ นายกรัฐเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ได้ประกาศเคอร์ฟิวในกรุงวอชิงตัน เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ไปจนถึงวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น และได้ขอให้ทหารจากหน่วยกองกำลังพิทักษ์ชาติ (National Guard) ตรึงกำลังเพื่อรักษาความปลอดภัยในวอชิงตัน
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 123,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 88,000 ตำแหน่ง โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจปิดกิจการและปลดพนักงานจำนวนมาก
ด้านไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 54.8 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 58.4 ในเดือนพ.ย. โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน