ดาวโจนส์พุ่ง 327จุด วัคซีนคืบหน้า-ทรัมป์ยอมถ่ายโอนอำนาจ



  • นักลงทุนซื้อหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจคึกคัก
  • วัคซีนต้านโควิด-19มีความคืบหน้าในทางที่ดีต่อเนื่อง
  • ตลาดขานรับทรัมป์ยอมถ่ายฌอนอำนาจ-เยลเลนจ่อนั่งคลัง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่23ต.ค. ที่ 29,591.27 จุด เพิ่มขึ้น 327.79 จุด หรือ +1.12% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,577.59 จุด เพิ่มขึ้น 20.05 จุด หรือ +0.56% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 11,880.63 จุด เพิ่มขึ้น 25.66 จุด หรือ +0.22%

ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน หลังจากมีข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เมื่อวันศุกร์ เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉิน

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า FDA ได้ให้การอนุมัติการใช้แอนติบอดีของ Regeneron ในการรักษาโรคโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เคยได้รับก่อนหน้านี้

ล่าสุดแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งทางบริษัทพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดมีประสิทธิภาพ 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 หลังจากที่บริษัทระบุว่าก่อนหน้านี้ว่า ผลการวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่าวัคซีนมีค่าประสิทธิภาพเฉลี่ย 70%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากการยอมถ่ายโอนอำนาจของประธานาธิบดีทรัมป์ หลังอึมครึมมาระยะหนึ้ง นอกจากนั้นตลาดยังตอบรับรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงาน ที่ระบุว่า นายไบเดนเตรียมเสนอชื่อนางเยลเลนให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ โดยนางเยลเลนเป็นหนึ่งในกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้ทำการรายงานสรุปเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจให้นายไบเดนรับทราบนับตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อนายไบเดนตอบรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

หุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสายการบิน และกลุ่มอุตสาหกรรม ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 8.22% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 2.58% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 4.47% ส่วนหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 5.97% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดีดตัวขึ้น 1.49% หุ้น 3M บวก 0.72%

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน WTI โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 6.55% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 6.1% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ทะยานขึ้น 8.9% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 7.7%

หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 2.88% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 2.16% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 3.19% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.45% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ทะยานขึ้น 4.26%

หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 6.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทเวดบุชคาดการณ์ว่า ราคาหุ้นของเทสลามีแนวโน้มทะยานขึ้นแตะระดับ 1,000 ดอลลาร์ รวมทั้งปัจจัยบวกจากการที่หุ้นของบริษัทเทสลาจะถูกรวมในการคำนวณดัชนี S&P500 ในวันที่ 21 ธ.ค.นี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่เป็นปัจจัยหนุนตลาดเมื่อคืนนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 57.9 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 68 เดือน จากระดับ 56.3 ในเดือนต.ค. โดยดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะขยายตัว ทั้งภาคการผลิตและบริการ