ดาวโจนส์พุ่งแรงกว่า 1,000 จุด หลังตัวเลขผู้ติด เชื้อโควิด-19 ในนิวยอร์กลดลง

  • นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลับ ท่ามกลางความหวังมากขึ้นที่จะต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19
  • ยอดติดเชื้อ และเสียชีวิตในนิวยอร์ก อิิตาลี สเปน เริ่มชะลอตัวลงต่อเนื่อง
  • ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันโลกที่จะดีดหลังหลังซาอุ-รัสเซีย จ่อยุติสงครามราคา

เมื่อเวลาประมาณ 21.25 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เปิดวันแรกของสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน เม.ย.เคลื่อนไหวอยู่ที่ 22,135.32จุด เพิ่มขึ้น 1,083 จุด หรือ +5.14% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 7,729.66 จุด บวกขึ้นมา 356.57 จุด หรือ +4.84%ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 2,612.41 จุด เพิ่มขึ้น 123.76 จุดหรือ +4.97%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมามีแรงช้อนซื้อกลับอีกครั้ง หลังจากดิ่งลงแรงต่อเนื่องในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ถึงแม้ภาพรวมการแพร่ระบาดของโควิด -19 ทั่วโลก และในภาพรวมของสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้น แต่ตัวเลขการชะลอลงของการติดเชื้อในนิวยอร์ก อิตาลี และสเปน รวมทั้งการรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ลดลงครั้งแรกในรัฐนิวยอร์ก ขณะที่อิตาลี สเปน และฝรั่งเศาล มีจำนวนผู้เสียชีวิตลงต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนมีความหวังในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นี้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ยังคงส่งสัญญาณให้ชาวอเมริกันเตรียมใจกับสัปดาห์อันเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น

นอกจากนั้น ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มสงครามราคาน้ำมันของรัสเซียและซาอุดีอาระเบียใกล้จะจบลง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกดีดตัวขึ้น

โดยคิริล ดมิเทรียฟ ซีอีโอของ ผู้บริหารกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียและซาอุดีอาระเบียใกล้มากแล้วที่จะบรรลุข้อตกลงการปรับลดการผลิตน้ำมัน โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้เสนอให้ลดการผลิตรวมกันที่ราว 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน

“ผมคิดว่า ทั้งตลาดต่างเข้าใจว่า ข้อตกลงนี้มีความสำคัญและจะนำเสถียรภาพซึ่งมีความสำคัญอย่างมากมาสู่ตลาด และเราก็ใกล้มากแล้วที่จะบรรลุข้อตกลงดังกล่าว”