เมื่อเวลา 22.05 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,748.49 จุด เพิ่มขึ้น 236.50 จุด หรือ +0.69% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,568.25 จุด เพิ่มขึ้น 69.37 จุด หรือ +0.48% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,348.69 จุด เพิ่มขึ้น 25.63 จุด หรือ +0.59%
ภาวะเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว ส่งผลดีต่อการซื้อขายให้ตลาดหุ้นสหรัฐ โดยดัชนียังดีดขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจยังออกมาในทิศทางที่ดีขึ้น โดยตัวเลขการสร้างบ้านของสหรัฐที่ออกมาวันนี้ สูงเกินคาดในเดือนมิ.ย.
นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 6% ในปีนี้ เช่นเดียวกับตัวเลขคาดการณ์ในเดือนเม.ย.
อย่างไรก็ดี นางจอร์เจียวากล่าวว่า อัตราการขยายตัวในแต่ละประเทศยังคงมีความแตกต่างกัน โดยบางประเทศเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่บางประเทศเป็นไปอย่างล่าช้า ทั้งนี้ เศรษฐกิจโลกจะไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ หากอัตราการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ไม่เพิ่มขึ้นมากกว่านี้ และหากอัตราการฉีดวัคซีนยังคงอยู่ในระดับปัจจุบันต่อไป โลกจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการยุติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในสิ้นปี 2565
ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการประกาศผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทราว 85% ในดัชนี S&P 500 ที่รายงานผลประกอบการแล้ว ต่างก็มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบิน หุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคาร ปรับตัวเพิ่มขึ้น
บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ บริษัทมีกำไร 2.48 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.27 ดอลลาร์/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 2.331 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.221 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี หุ้นโมเดอร์นาร่วงลง 3% แม้มีข่าวดีจากการที่หุ้นของบริษัทได้ถูกรวมในการคำนวณดัชนี S&P 500 ในวันนี้ แทนบริษัท Alexion ซึ่งถูกบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าซื้อกิจการ
