

.นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นคึกคัก หลังดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)เดือน ต.ค.ต่ำกว่าคาด
.ตลาดคาด เฟดเริ่มชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยชึ้นเพียง 0.50% ในเดือน ธ.ค.
.บาทอ่อน-ผลอตอบแทนพันธบัตรลด-ผลประกอบการดี ช่วยหนุนดัชนีตลาด
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,903.01 จุด เพิ่มขึ้น 366.31 จุด หรือ + 1.1% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่11,462.93 จุด เพิ่มขึ้น 266.71 จุด หรือ +2.38% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,023.07 จุด เพิ่มขึ้น 65.82 จุด หรือ +1.66%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดขึ้น หลังการประกาศดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด รวมทั้ง ยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ส่วนการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี จะช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุน และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ประจำเดือนต.ค.ในวันนี้ โดยตัวเลข PPI ดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว ทั้งนี้ ดัชนี PPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 8.0% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายปีต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.3% และชะลอตัวจากระดับ 8.4% ในเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% จากระดับ 0.2% ในเดือนก.ย. ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.4% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 5.6% ในเดือนก.ย. ขณะที่เทียบรายเดือน ดัชนี PPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. จากระดับ 0.3% ในเดือนก.ย.
นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนธ.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการค้าปลีกที่ที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ในไตรมาส 3 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยบริษัทมีกำไร 1.50 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.32 ดอลลาร์/หุ้น และมีรายได้ 1.5281 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.4775 แสนล้านดอลลาร์