ดาวโจนส์พลิกร่วงกว่า 50 จุด หลัง “พาวเวล” ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อ



.นักลงทุนผิดหวังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

.มีแรงขายหุ้นลดความเสี่ยง หวั่นดอกเบี้ยสูงกระทบการขยายตัวเศรฐกิจ

.ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดีดตัวชึ้นเช่นกัน

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,048.31 จุด ลดลง 51.11จุดหรือ –0.15% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,376.46 จุดเพิ่มขึ้น 0.15 จุดหรือ +0.00% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 13,386.32 จุด ลดลง 77.65 จุดหรือ–0.58%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวน ดัชนีดาวโจนส์เปิดในแดนบวก แต่พลิกร่วงแดนลบ หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันนี้

นายพาวเวลกล่าวว่า เงินเฟ้อยังคงอยู่สูงเกินไป และเฟดเตรียมการที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ “แม้ว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงจากระดับสูงสุด ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่ดี แต่ก็ยังคงอยู่สูงเกินไป โดยเราเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากมีความเหมาะสม และจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จนกว่าเรามีความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงอย่างยั่งยืนไปสู่เป้าหมายที่เรากำหนดไว้” นายพาวเวลกล่าว

ดอลลาร์ดีดตัวขึ้น ขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ด้านสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% ทะลุระดับ 80 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัว

ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 3 ล้านบาร์เรล

ซาอุดีอาระเบียประกาศขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นเดือนก.ย. และรัสเซียลดการส่งออกน้ำมันจำนวน 300,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ย.