ดาวโจนส์ผันผวน ลดลงเล็กน้อยกว่า 10 จุด รอสุนทรพจน์ประธานเฟดชี้ชะตาเศรษฐกิจ

.ตลาดหุ้นสหรัฐฯเคลื่อนไหวผันผวนในแดนลบ รอดูสัญญาณเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย

.ตลากจับตาถ้อยแถลง “เจอโรม พาวเวล” ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)เต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงิน สภาผู้แทนฯ

.นักลงทุนกังวลเพิ่มขึ้น หลังสื่อระบุ แถลงการณ์พาวเวลที่หลุดออกมา ยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,037.82 จุด
ลดลง 16.05 /จุด หรือ -0.05% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่13,503.82 จุด ลดลง 163.47 จุด หรือ -1.20% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,366.55 จุด ลดลง 22.16 จุด หรือ -0.50%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯผันผวน โดยมีแรงเทขายหุ้นออกมาทำให้ ดิ่งลงมากในช่วงแรก ก่อนปรับขึ้นมาเพื่อรอดูสถานการณ์ โดยนักลงทุนกังวลต่อสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ สำนักข่าวหลายแห่งได้ทำการเผยแพร่ล่วงหน้าสำหรับร่างแถลงการณ์ที่ ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตรียมกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้

ในแถลงการณ์ระบุว่า นายพาวเวลจะส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้นเกี่ยวกับการชะลอตัวของเงินเฟ้อ โดยการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นเพียงการพักการดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยเพียงชั่วคราว มากกว่าที่จะบ่งชี้ว่าเฟดได้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

“กรรมการเกือบทุกท่านใน FOMC มองว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปภายในปลายปีนี้” นายพาวเวลกล่าว พร้อมเสริมว่า เงินเฟ้อได้ชะลอตัวลง แต่ยังคงอยู่เหนือเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ซึ่งทำให้เฟดยังคงมีงานที่จะต้องทำ”

นายพาวเวลยังระบุว่า การทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลง จำเป็นที่เศรษฐกิจจะต้องชะลอตัวลงต่ำกว่าระดับที่เป็นอยู่

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นทะลุระดับ 71 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของสัญญา โดยทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น