

.นักลงทุนซื้อขายหุ้นเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทที่จะทยอยประกาศออกมา
.หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวเพิ่ม หลังเจพีมอร์แกน เชส และ เวลส์ ฟาร์โก รายได้สูงกว่าคาดการณ์
. ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 59.8 ในเดือนต.ค.สูงกว่านักวิเคราะห์คาด
เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 30,018.23 จุด ลดลง
20.49 จุด หรือ -0.07% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 10,524.83 จุด ลดลง 124.32 จุด หรือ -1.17% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,638.86 จุด ลดลง 31.05 จุด หรือ -0.85%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงผันผวน มีทั้งแรงซื้อและแรงขาย โดยบรรยากาศการลงทุนยังเป็นการแก็งกำไรหุ้นราคาต่ำ และคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3
ทั้งนี้ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 59.8 ในเดือนต.ค. จากระดับ 58.6 ในเดือนก.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 59.0
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 5.1% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า โดยสูงกว่าระดับ 4.7% ที่มีการสำรวจในเดือนก.ย. ขณะที่ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 2.9% โดยสูงกว่าระดับ 2.7% ที่มีการสำรวจในเดือนก.ย.
วันเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือนก.ย. หรือเพิ่มขึ้น 0.0% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.
หุ้นเจพีมอร์แกน เชส และ เวลส์ ฟาร์โก ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังเปิดเผยตัวเลขรายได้ที่สูงกว่าคาดการณ์ ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์ และ ซิตี้กรุ๊ป ก็เตรียมรายงานผลประกอบการในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 3 ที่กำลังทยอยผลประกอบการออกมา