

.นักลงทุนคลายกังวลโอมิครอน รายงานวิจัยระบุหลังติดแต่อาการน้อย
.ตลาดหุ้นพุ่งขึ้น ตัวเลขGDPสหรัฐไตรมาส3โตเกินคาด
.ราคาหุ้นหุ้นเทสลา ทะยานขึ้น 7.49% กลังอีลอน มัสก์ เผยขายหุ้นเทสลาจนครบเป้า 10%
ชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 22 ธ.ค.ที่ 35,753.89 จุด เพิ่มขึ้น 261.19 จุด หรือ + 0.74%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,696.56 จุด เพิ่มขึ้น 47.33 จุด หรือ +1.02% และดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 15,521.89 จุด เพิ่มขึ้น 180.81 จุด หรือ +1.18%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ โดยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2564 ของสหรัฐขยายตัว 2.3% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่สองที่ระดับ 2.1% ขณะที่ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐปรับตัวขึ้น 1.9% สู่ระดับ 6.46 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน
ด้าน Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 115.8 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 111.9 ในเดือนพ.ย. โดยเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 110.8
ขณะที่ผลการศึกษาครั้งล่าสุดของสถาบันอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอนระบุว่า ความเสี่ยงที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น มีน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาประมาณ 40% – 45% ส่งผลให้นักลงทุนคลายกังวลโอมิครอนและกลับมาซื้อหุ้น ซึ่งรายงานดังกล่าวสอดคล้องกับผลวิจัยของสถาบันโรคติดต่อของแอฟริกาใต้ และสถาบันสาธารณสุขของสก็อตแลนด์
หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยพุ่งขึ้น 1.73% โดยหุ้นราล์ฟ ลอเรน ดีดขึ้น 0.29% หุ้นคาปรี โฮลดิ้งส์ ปรับตัวขึ้น 0.65% หุ้นบาธ แอนด์ บอดี้ เวิร์คส์ เพิ่มขึ้น 0.28%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1.33% โดยหุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.05% ห้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.53% หุ้นแอมะซอน บวก 0.36% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.81% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 1.54%
หุ้นไฟเซอร์ ปรับตัวขึ้น 1.04% หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) อนุมัติการใช้ยาแพกซ์โลวิดของบริษัทไฟเซอร์ ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉิน
หุ้นเทสลา ทะยานขึ้น 7.49% หลังจากนายอีลอน มัสก์ เปิดเผยว่าเขาได้ขายหุ้นเทสลาจนครบเป้าหมาย 10% แล้ว หลังจากที่เขาได้ตั้งโพลสอบถามความคิดเห็นกับผู้ติดตามในทวิตเตอร์ว่า เขาควรขายหุ้น 10% ในบริษัทเทสลาเพื่อนำเงินไปจ่ายภาษีหรือไม่ ซึ่งผลโหวตกว่า 3.5 ล้านเสียง หรือคิดเป็น 57.9% แนะนำให้เขาขายหุ้นเทสลาจำนวนดังกล่าว
หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พุ่งขึ้น 1.92% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทแบร์สเติร์นได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์สู่ระดับ “Outperform” เนื่องจากเชื่อมั่นว่าบริษัทแห่งนี้จะได้ประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเพื่อรอดูสถานการณ์การฟื้นตัวเศรษฐกิจ ภายใต้การระบาดของโอมิครอน