

.หุ้นเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่อการจึ้นดอกเบี้ยร่วงนำตลาด
.ลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดหนุนขึ้นดอกเบี้ย-ลดปล่อยเงิน
.มูลค่าส่งออก-นำเข้าสหรัฐฯพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 5เม.ย.ที่ 34,641.18 จุด ลดลง 280.70 จุด หรือ -0.80%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,525.12 จุด ลดลง 57.52 จุด หรือ -1.26% และดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 14,204.17 จุด ลดลง 328.39 จุด หรือ -2.26%
นางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเร่งปรับลดขนาดของงบดุลเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวได้ฉุดหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
โดยเธอกล่าวว่า ขณะนี้เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูงเกินไป และการชะลอเงินเฟ้อถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญอย่างมาก
คริสตินา ฮูเปอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทอิสเวสโคกล่าวว่า การแสดงความเห็นของนางเบรนาร์ดทำให้ตลาดวิตกกังวลว่า เฟดอาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงหรืออาจเข้าสู่ภาวะถดถอย และเมื่อถึงเวลานั้น เฟดอาจเผชิญกับความยากลำบากในการพยุงเศรษฐกิจ
ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ร่วงลง 2.2% โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.89% หุ้นแอมะซอน ดิ่งลง 2.55% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 1.30% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 1.67% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 2.9%
ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ร่วงลง 2.4% โดยหุ้นราล์ฟ ลอเรน ดิ่งลง 3.86% หุ้นไนกี้ ร่วงลง 1.52% หุ้นคาปรี โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 2.74%
อย่างไรก็ตาม หุ้นทวิตเตอร์ พุ่งขึ้น 2% ขานรับข่าวที่ว่า นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลา จะเข้าร่วมบอร์ดบริหารของทวิตเตอร์ หลังจากที่ได้ถือครองหุ้นบริษัทมากกว่า 9%
หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรือสำราญรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.43% หลังบริษัทเปิดเผยยอดจองที่นั่งเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
หุ้นสายการบินสปิริต แอร์ไลน์ส ทะยานขึ้น 22.37% ขานรับรายงานที่ว่า สายการบินเจ็ตบลู แอร์เวย์ส ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการสปิริต แอร์ไลน์ส
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.3 ในเดือนมี.ค. โดยได้แรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐลดลง 0.1% สู่ระดับ 8.92 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. โดยการนำเข้าพุ่งขึ้น 1.3% สู่ระดับ 3.178 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 1.8% สู่ระดับ 2.286 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน