

.ผลการประชุมกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ขึ้นดอกเบี้ย 0.25%ตามคาด
.ดัชนีตลาดหุ้นร่วงลงหลึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดมองเงินเฟ้อยังสูงไป
.นักลงทุนเทขายหุ้น ผิดหวังเฟดยังไม่ชัดเจนจะจบวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นหรือไม่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 3พ.ค.ที่ 33,414.24 จุด ลดลง 270.29 จุด หรือ -0.80%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,090.75 จุด ลดลง 28.83 จุด หรือ -0.70% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 12,025.33 จุด ลดลง 55.18 จุด หรือ -0.46%
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นในช่วงแรก หลังเฟดออกแถลงการณ์ระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ซึ่งเป็นไปตามคาดหมาย และทำให้มองว่า เฟดอาจยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากครั้งนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจที่ยังขยายตัวดี โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.9 ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 51.8 จากระดับ 51.2 ในเดือนมี.ค. โดยดัชนีอยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้การขยายตัวในภาคบริการของสหรัฐ
ด้านเอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.6 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 52.6 ในเดือนมี.ค. แต่ต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 53.7 โดยดัชนี PMI อยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้การขยายตัวในภาคบริการของสหรัฐ โดยขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
อย่างไรก็ตาม หลังจากการแถลงข่าวของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่กล่าาว่า เฟดมองว่าเงินเฟ้อของสหรัฐยังอยู่ในระดับที่สูงเกินไป และยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า วัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะสิ้นสุดลง
ส่งผลให้นักลงทุนลังเลว้า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันพุธนี้ (3 พ.ค.) จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ และกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
หุ้นทุกกลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดลดลง โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มการเงินปรับตัวลงมากที่สุด ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารภูมิภาค KBW ลดลง 0.9%
สำหรับหุ้นรายตัวที่ร่วงลงอย่างหนัก อาทิ หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ (AMD) ร่วง 9.3% หลังคาดการณ์ยอดขายรายไตรมาสต่ำกว่าคาด เนื่องจากตลาดพีซีอ่อนแอลง