ดาวโจนส์ปิดลบ 223จุด นักลงทุนขายหุ้นทำกำไร



  • ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐเดือนส.ค.พุ่งแรงทั้ง3ตลาด
  • ตลาดตอบรับความคืบหน้าการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
  • นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังราคาหุ้นขึ้นแรง เพื่อลดความเสี่ยง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 31 ส.ค.ที่ 28,430.05 จุด ลดลง 223.82 จุด หรือ -0.78% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,500.31 จุด ลดลง 7.70 จุด หรือ -0.22% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 11,775.46 จุด เพิ่มขึ้น 79.83 จุด หรือ +0.68%

แม้จะมีแรงเทขายทำกำไรออกมาในวันสุดท้ายของเดือน แต่ตลอดเดือนส.ค. ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นทั้งสิ้น 7.6% ซึ่งทำสถิติเป็นเดือนส.ค.ที่ทะยานขึ้นมากที่สุดในรอบ 36 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2527 ขณะที่ดัชนีเสแอนด์พี 500 พุ่งขึ้น 7% ทำสถิติเป็นเดือนส.ค.ที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 34 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2529 ส่วนดัชนีอนสแด็ก ทะยานขึ้น 9.6% ในเดือนส.ค.

โดยในระหว่างวัน นักลงทุนขายทำกำไรหุ้นต่อเนื่อง โดยหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหนักสุด นำโดยหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์ยี ดิ่งลง 9.93% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.84% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 1.9% อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น ยังส่งให้ดัชนีแนสแด็กปิดบวก

หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 1.48% หุ้นวอลมาร์ท ลดลง 1.03% หุ้นออราเคิล ร่วงลง 1.14% หลังจากรัฐบาลจีนปรับปรุงกฎระเบียบใหม่เพื่อควบคุมการส่งออกเทคโนโลยี ซึ่งทำให้ไบต์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทแม่ของติ๊กต็อก (TikTok) ต้องขอการอนุมัติจากรัฐบาลจีนก่อนที่จะขายธุรกิจของติ๊กต็อกในสหรัฐ ซึ่งอาจจะกระทบต่อดีลของไมโครซอฟท์, วอลมาร์ท และออราเคิล ที่ต้องการซื้อกิจการติ๊กต็อกในสหรัฐ

หุ้น Aimmune Therapeutics ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารักษาอาการแพ้ถั่วลิสง ทะยานขึ้น 171.59% หลังจากบริษัทเนสท์เล่ เสนอซื้อหุ้นจำนวน 74.4% ของ Aimmune Therapeutics สูงกว่าราคาปิดตลาดในวันศุกร์ที่ผ่านมา 174%

หุ้นแอมะซอนดอทคอม ดีดตัวขึ้น 1.5% หลังจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) อนุมัติให้แอมะซอนดำเนินการขนส่งสินค้าด้วยโดรน โดยการบริการดังกล่าวมีชื่อว่า Prime Air

ทั้งนี้ หากมองในภาพรวมปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นนิวสหนัฐฯ ทำสถิติแข็งแกร่งในเดือนส.ค.นั้น มาจากข่าวความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไปอีกหลายปี

ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 1.255 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค.