ดาวโจนส์ปิดลบเล็กน้อย 19 จุด คนว่างงานใหม่พุ่ง



  • ผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 898,000 รายสูงกว่าที่คาด
  • นักลงทุนกังวลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่คืบ ขายหุ้นลดความเสี่ยง
  • ผลประกอบการกลุ่มแบงก์ดี-มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน ประคองดัชนีลบไม่มาก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 15ต.ค.ที่ 28,494.20 จุด ลดลง 19.80 จุด หรือ -0.07% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,483.34 จุด ลดลง 5.33 จุด หรือ -0.15% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส  ปิดที่ 11,713.87 จุด ลดลง 54.86 จุด หรือ -0.47%

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 898,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 830,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 845,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ส่งผลให้นักลงทุนผิดหวังและขายหุ้นออกมา ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยล่าสุดแม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศความพร้อมที่จะเพิ่มวงเงินในมาตรการดังกล่าวสูงกว่าระดับ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อให้ทำเนียบขาวสามารถบรรลุข้อตกลงกับพรรคเดโมแครตได้สำเร็จ แต่นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ ไม่เห็นด้วย

นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับข่าวรัฐบาลอังกฤษประกาศยกระดับการเตือนภัยจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในกรุงลอนดอนและเมืองลิเวอร์พูลตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ ซึ่งส่งผลให้มีการปิดสถานประกอบการบางประเภท ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศเคอร์ฟิวในกรุงปารีสและ 8 เมืองใหญ่เพื่อสกัดการแพร่ระบาดรอบ 2 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันศุกร์นี้ และจะต่อเนื่องไปเป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์

หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลง 1.5% หลังจากสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เปิดเผยรายได้ทรุดตัวลง 78% ในไตรมาส 3 ขณะที่ราคาหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ปิดตลาดดิ่งลง 3.82% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ลดลง 1.05% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 1.35%

ดัชนีหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ปรับตัวลง 0.7% ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับข่าวการระงับทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยหุ้นเมอร์ค แอนด์ โค ร่วงลง 1.8% หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส ลบ 0.4% หุ้นไฟเซอร์ ลดลง 0.87% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปรับตัวลง 0.6%

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 1.17% ขณะทีผลประกอบการที่ดีช่วยให้หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น 0.8% ซึ่งช่วยลดช่วงลบของตลาดในระหว่างวัน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวขึ้น 0.85% หุ้นเชฟรอน บวก 0.74% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 2.67% ส่วนหุ้นในกลุ่มธนาคารนั้น หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ทะยานขึ้น 2.24% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 1.49% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 1.36% 

อย่างไรก็ตาม หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 1.31% หลังมีข่าวว่าสั่งปลดพนักงานกว่า 100 คนที่มีพฤติกรรมฉ้อโกงเงินในโครงการปล่อยเงินกู้เพื่อบรรเทาภัยพิบัติของสำนักงานธุรกิจขนาดย่อม (SBA) ของสหรัฐ 

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) อยู่ที่10.5 ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 12.3 จากระดับ 17.0 จุดในเดือนก.ย.