

- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่ง 6.2% ในเดือนต.ค.สูงขึ้นในรอบเกือบ 31 ปี
- ตลาดกังวลตัวเลขเงินเฟ้อสูง ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น
- นักลงทุนขายหุ้นลดความเสี่ยง-ราคาน้ำมันดิ่ง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงานลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 10 พ.ย.ที่ 36,079.94 จุด ลดลง 240.04 จุด หรือ -0.66%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,646.71 จุด ลดลง 38.54 จุด หรือ -0.82% และดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 15,622.71 จุด ลดลง 263.84 จุด หรือ -1.66%
ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง นักลงทุนกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 31 ปีอาจเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2533 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9% จากระดับ 5.4% ในเดือนก.ย.
แนนซี เดวิส นักวิเคราะห์จากบริษัท Quadratic Capital Management กล่าวว่า “การพุ่งขึ้นของดัชนี CPI เดือนต.ค.สะท้อนให้เห็นว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐอยู่เหนือระดับเป้าหมายของเฟด โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานและภาวะขาดแคลนแรงงาน เราคาดว่าหากเงินเฟ้อไม่ชะลอตัวลง ก็อาจจะทำให้เฟดปรับลดวงเงิน QE ลงอีก และอาจจะเร่งให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นด้วย”
นอกจากนั้น ราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงกว่า 3% ทำให้กลุ่มพลังงานร่วงลง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.97% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ดิ่งลง 5.70% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.59% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 5.02% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 3.63%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.92% หุ้นอัลฟาเบท ดิ่งลง 2.03% หุ้นแอมะซอน ร่วงลง 2.63% หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ (เฟซบุ๊ก) ดิ่งลง 2.3% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 1.53% อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นเวลส์ ฟาร์โก บวก 0.94% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวขึ้น 0.78% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 0.32%
หุ้นเทสลา ปิดพุ่งขึ้น 4.34% โดยราคาหุ้นฟื้นตัวหลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 2 วัน อันเนื่องมาจากการที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ร่วมกันโหวตให้นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา ขายหุ้น 10% ในเทสลาเพื่อนำเงินไปจ่ายภาษี
หุ้น Robinhood ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ให้บริการซื้อขายหุ้นผ่านแอปพลิเคชั่นโดยไม่คิดค่าธรรมเนียม ร่วงลง 6.02% ซึ่งเป็นการดิ่งลงติดต่อกันวันที่ 2 หลังมีรายงานว่าแฮกเกอร์ได้เจาะเข้าระบบของบริษัท ซึ่งส่งผลกระทบต่อข้อมูลของลูกค้ากว่า 5 ล้านราย
ด้านตลาดแรงงาน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 267,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 จากระดับ 271,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด