ดาวโจนส์ปิดพุ่งแรง 524 จุด บริษัทประกาศผลประกอบการแข็งแกร่งเกินคาด



  • มีแรงซื้อหุ้นสะสมเพื่อรอทำกำไร หลังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนออกมาดีกว่าคาด
  • นักลงทุนมองบริษัทส่วนใหญ่ยังปรับตัวทำกำไรได้แม้เศรษฐกิจชะลอ
  • ตลาดรอทิศทางดอกเบี้ยเฟด ที่จะประชุมวันที่ 2-3 พ.ค.นี้ หลังจีดีพีไตรมาาแรกต่ำคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 27เม.ย.ที่ระดับ 33,826.16 จุด พุ่งขึ้น 524.29 จุด หรือ +1.57%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,135.35 จุด เพิ่มขึ้น 79.36 จุด หรือ +1.96% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 12,142.24 จุด พุ่งขึ้น 287.89 จุด หรือ + 2.43%

มีแรงซื้อหุ้นเข้ามาต่อเนื่อง หลังผลประกอบการของเมตา แพลตฟอร์มส์ และบริษัทรายใหญ่อีกหลายแห่งออกมาแข็งแกร่งเกินคาด ส่งผลให้นักลงทุนมองว่า ธุรกิจของสหรัฐสามารถปรับตัวเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจได้ดี แม้เศรษฐกืจจะเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว นอกจากนี้ บริษัทหลายแห่งที่มีฐานเงินทุนแข็งแกร่งยังได้ประกาศแผนการซื้อหุ้นคืน

ราคาหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ทะยานขึ้น 13.93% หลังบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 2.865 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.765 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ เมตาคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 2/2566 จะอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.95 หมื่นล้านดอลลาร์

ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของเมตาช่วยหนุนราคาหุ้นบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นแอปเปิ้ล พุ่งขึ้น 2.84% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 3.2% หุ้นอะเมซอน ทะยานขึ้น 4.6% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 1.46%

นอกจากนั้น หุ้นคอมแคสต์ ซึ่งเป็นสื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 10.27% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 92 เซนต์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 82 เซนต์ ขณะที่หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ บวก 1.1% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้สอดคล้องกับการคาดการณ์

หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 1.52% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่กำไร 1.40 ดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.32 ดอลลาร์

หุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ปิดตลาดขยับลง 0.8% หลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในระหว่างวัน ขานรับรายงานผลกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2566 ซึ่งอยู่ที่ 4.91 ดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 3.80 ดอลลาร์

ด้านภาพรวมเศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวเพียง 1.1% ในไตรมาส 1/2566 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.0% เนื่องจากอย่างไรก็ตาม ตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี แม้ว่าตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ค.

ด้านตลาดแรงงาน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 249,000 ราย

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ รวมทั้ง จับตาความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐ