ดาวโจนส์ปิดบวก 91.91 จุด หวังคลายล็อก ดาวน์เศรษฐกิจฟื้น

  • ตลาดระบุผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการประท้วงน้อยกว่าพิษโควิด-19
  • ดัชนีได้แรงหนุนจากดัชนีคววามเชื่อมั่นธุรกิจที่ดีดขึ้นจากจุดต่ำสุด หลังคลายล็อกดาวน์
  • นักลงทุนจับตาความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นของจีน-สหรัฐ

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ วันที่ 1มิ.ย. ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 91.91 จุด ที่ระดับ 25,475.02 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.36% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 11.42 จุด หรือ 0.38 % ปิดที่ 3,055.73 จุด ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เพิ่มขึ้น 62.18 จุด ปิดที่ 9,552.05 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.66%

ทำเนียบขาวร้องขอความสงบเรียบร้อย หลังสหรัฐฯต้องเผชิญกับการประท้วงรุนแรงยืดเยื้อในหลายรัฐมาแล้ว 6 คืน จากประเด็นการเสียชีวิตของนาย จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสี จากการกระทำเกินกว่าเหตุของตำรวจสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดไม่ได้รับผลกระทบจากการประท้วงมากนัก เพราะแม้จะมีผลต่อเศรษฐกิจ มีการปิดถนน แต่มันจะไม่เลวร้ายเท่าผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนั้ นักลงทุนส่วนหนึ่งมองว่า ผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว และเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวหลังจากนี้

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน หลังผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) ระบุว่าดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 43.1 ในเดือนพฤษภาคม โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 43.0 ฟื้นตัวจากระดับ 41.5 ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น โรงแรม สายการบิน และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 5.06% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน เพิ่มขึ้น 3.81% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 5.8% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 4.74% หุ้นเจ็ทบลู เพิ่มขึ้น 1.29%

หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ พุ่งขึ้น 7.27% หุ้นนอร์เวย์เจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้ง ทะยานขึ้น 10.41% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป พุ่งขึ้น 6.7% หุ้นแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ทะยานขึ้น 7.38 หุ้นไฮแอท โฮเทลส์ คอร์ปอเรชั่น บวก 2% หุ้นฮิลตัน เวิลด์ไวด์ โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 3.24%

อย่างไรก็ตาม หุ้นทาร์เก็ต ร่วงลง 2.3% ขณะที่หุ้นวอลมาร์ท ปรับตัวลง 0.1% หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงในเมืองต่างๆของสหรัฐได้สร้างความเสียหายต่อร้านค้าของทั้งสองบริษัท

หุ้นไฟเซอร์ อิงค์ ดิ่งลง 7.2% หลังจากบริษัทประกาศว่าอาจจะระงับการทดลองยารักษามะเร็งเต้านม เนื่องจากผลการทดลองออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ

นักลงทุนจับตาสถานการณ์ระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด หลังจากสื่อรายงานว่า รัฐบาลจีนได้สั่งการให้บริษัทขนาดใหญ่ของรัฐบาลระงับการซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงถั่วเหลือง ทำให้นักลงทุนวิตกว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจกระทบต่อข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่จีนทำไว้กับสหรัฐในต้นปีนี้