

- หุ้นกลุ่มธนาคารได้แรงหนุนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ2ปีและ10ปี เริ่มห่างกัน
- นักลงทุนมีความหวังยาต้านไวรัสโควิด-19 ช่วยหยุดวิกฤต
- คนขอสวัสดิการว่างงานพุ่ง 33.5 ล้านรายในช่วง 7 สัปดาห์การแพร่ระบาดโควิด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 7 พ.ค.ที่ระดับ 23,875.89 จุด เพิ่มขึ้น 211.25 จุด หรือ +0.89% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,881.19 จุด เพิ่มขึ้น 32.77 จุด หรือ +1.15% ด้านดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 8,979.66 จุด เพิ่มขึ้น 125.27 จุด หรือ +1.41%
ความคืบหน้าในทางที่ดี ในการหายาต้านโควิด-19ในหลายบริษัท และการเริ่มมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ในหลายๆเมือง ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจลงทุนมากขึ้น
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีและ 10 ปีขยายกว้างขึ้น ส่งผลดีต่อการทำกำไรของกลุ่มธนาคาร ส่งผลให้มีการเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มนี้ โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2.24% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 3.9% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 3.05% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ทะยานขึ้น 4.05% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส บวก 1.04% หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก บวก 0.5%
เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มพลังงานหุ้นปรับตัวตามราคาน้ำมันที่มีทิศทางเพิ่มขึ้น โดยหุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.88% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ทะยานขึ้น 4.7% หุ้นเอ็กซอน โมบิล บวก 0.6% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 3.58%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.34% หุ้นแอปเปิล ดีดตัวขึ้น 1.03% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 1.77% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ บวก 0.5% หุ้นอเมซอนดอทคอม บวก 0.7% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 0.58% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ เพิ่มขึ้น 0.53%
หุ้น Moderna พุ่งขึ้น 8.66% หลังจากทางบริษัทได้รับการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ในการทดลองวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเฟส 2
เวียคอม ซีบีเอส อิงค์ บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาสแรก โดยได้รับแรงหนุนจากสมาชิกที่เพิ่มขึ้น หลังจากรัฐบาลประกาศมาตรการล็อกดาวน์
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลต่อผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19ที่มีผลต่อภาคแรงงาน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 3.17 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.05 ล้านราย
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานโดยรวมพุ่งขึ้นสู่ระดับ 33.5 ล้านรายในช่วง 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่สหรัฐประกาศล็อก