- นักลงทุนมีความหวังแพกเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2ล้านล้านเหรียญ
- ช่วยลดผลกระทบเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มตกต่ำกว่าที่คิดได้
- ส่งผลมีแรงซื้อหุ้นต่อเนื่องในหลายกลุ่ม โดยเฉพาะสาธารณูปโภค
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 26 มี.ค.ที่ 22,552.17 จุด พุ่งขึ้น 1,351.62 จุด หรือ +6.3% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,630.07 จุด เพิ่มขึ้น 154.51 จุด หรือ +6.24% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 7,797.54 จุด เพิ่มขึ้น 413.24 จุด หรือ +5.60%
นักลงทุนยังคงมีความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐร่างกฎหมายว่าด้วยมาตรการเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 วงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ จะช่วยลดผลกระทบของเศรษฐกิจสหรัฐจากไวรัสโควิด-19ลงได้
โดยร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐที่มีวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาพร้อมที่จะลงนามในร่างกฎหมายฉบับนี้ หากได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะลงมติต่อร่างกฎหมายดังกล่าวในวันนี้ โดยคาดการณ์ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ
ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยืนยันต่อชาวอเมริกัน ว่า เฟดกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกัน ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน พร้อมระบุว่านโยบายของเฟดจะมีความสำคัญอย่างมากขณะที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น เพื่อให้การฟื้นตัวมีความแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่าล่าสุด จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 3.28 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ในช่วง 1-4 ล้านราย ส่วนตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 ล้านราย ซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2562 ที่ระดับ 2.1% สอดคล้องกับตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 รวมทั้งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยทั้งปีเศรษฐกิจโตเพียง 2.3% ซึ่งต่ำสุดในรอบ3ปี
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นพีจีแอนด์อี คอร์ปอเรชั่น พุ่งขึ้น 5.8% หุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น พุ่งขึ้น 5.9% หุ้นเฟิร์สท์เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 8.9% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 8.6% หุ้นคอนโซลิเดทเต็ด เอดิสัน อิงค์ พุ่งขึ้น 3.1%
หุ้นโบอิ้ง ยังคงทะยานขึ้นเป็นวันที 3 ปรับเพิ่มขึ้น 13.75% โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า โบอิ้งจะได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากรัฐบาลสหรัฐ ผ่านทางมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรส
หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 5.6% ขณะที่หุ้นบริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 5.8% หลังจากสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติยารักษาโรคที่เกิดจากการอักเสบของปลอกประสาทในระบบประสาทส่วนกลาง (Multiple Sclerosis) ที่ผลิตโดยบริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์
