ดาวโจนส์ปิดตลาดลดลง 201 จุด เฟดส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ย



  • ประธานเฟด ระบุ เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุมครั้งหนึ่งหรือหลายครั้งในปีนี้
  • นักลงทุนขายหุ้นลดความเสี่ยง จับตาการฟื้นตัวเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า
  • ตลาดหุ้น ยังติดตามการเจรจายูเครน-รัสเซีย หาหนทางยุติสงคราม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 21 มี.ค.65 ที่ 34,552.99 จุด ลดลง 201.94 จุด หรือ -0.58%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,461.18 จุด ลดลง 1.94 จุด หรือ -0.04% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 13,838.46 จุด ลดลง 55.38 จุด หรือ -0.40%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงต่อเนื่อง นักลงทุนจับตาการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย และยูเครนที่ดูเหมือนยังไม่ค่อยคืบหน้า ขณะเดียวกันการส่งสัญญาณของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่า เฟดอาจจะคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้น ทำให้นักลงทุนขายหุ้นออกมาเพิ่มขึ้นในแทบทุกกลุ่ม

โดยเขาระบุว่า “ตลาดแรงงานของสหรัฐมีความแข็งแกร่งมาก และอัตราเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับสูงเกินไป ราจึงอาจจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุมครั้งหนึ่งหรือหลายครั้ง เราก็จะทำ และหากเราพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็นต้องดำเนินนโยบายแบบคุมเข้มมากกว่าที่เคยดำเนินการมา เราก็จะทำเช่นกัน”

สอดคล้องกับ นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จำนวน 1 ครั้งหรือมากกว่านั้นในปีนี้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ เช่นกัน โดยเขามองว่า เฟดจำเป็นที่จะต้องเริ่มปรับลดขนาดงบดุลจากปัจจุบันที่ราว 9 ล้านล้านดอลลาร์ และควรเริ่มกระบวนการดังกล่าวในการประชุมครั้งหน้า

หุ้นกลุ่มธุรกิจการสื่อสารลดลงแรง โดยหุ้นพินเทอเรสต์ ดิ่งลง 2.91% หุ้นสแนป ร่วงลง 2.36% หุ้นทวิตเตอร์ ลดลง 0.87% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 1.58% หุ้นเอทีแอนด์ที ปรับตัวลง 0.22% ขณะที่หุ้นกลุ่มธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นบาธ แอนด์ บอดี้ เวิร์คส์ ร่วงลง 2.16% หุ้นราล์ฟ ลอเรน ดิ่งลง 2.39% หุ้นไนกี้ ปรับตัวลง 0.83%

นอกจากนี้ การลดลงแรงของหุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 3.59% หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส พร้อมผู้โดยสาร 132 คน ตกในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงของจีนเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ เป็นอีกปัจจัยที่ฉุดดัชนีตลาด

หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ดิ่งลง 2.31% หลังจากสำนักข่าวทาสส์ (TASS) ของรัสเซียรายงานว่า ศาลรัสเซียมีคำสั่งระงับการใช้งานแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมในรัสเซียแล้วเมื่อวานนี้ โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวสนับสนุนความรุนแรง

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมัน WTI ทะยานขึ้นกว่า 7% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 4.53% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.8% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 3.17% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 4.27% เช่นเดียวกับหุ้นบริษัทผลิตอาวุธพุ่งขึ้น โดยหุ้นนอร์ธรอป กรัมแมน (Northrop Grumman) พุ่งขึ้น 4.32% หุ้นล็อคฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) พุ่งขึ้น 3.24% หุ้นเรย์เธียน เทคโนโลยีส์ (Raytheon Technologies) ดีดขึ้น 2.33% หุ้นเจเนอรัล ไดนามิกส์ (General Dynamics) พุ่งขึ้น 2.54%