ดาวโจนส์ปิดตลาดพลิกบวก 68 จุด นักลงทุนหวังข่าวดีลงนามข้อตกลงการค้าช่วยเศรษฐกิจสหรัฐฯ



  • นักลงทุนมองสงครามตะวันออกกลางไม่กระทบสัมพันธ์กับจีน
  • ตลาดเก็งกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรับจีน-สหรัฐฯเดินหน้าลงนามข้อตกลงการค้า
  • นักวิเคราะห์หวังเฟดจะช่วยพยุงเศรษฐกิจ หากผลกระทบตะวันออกกลางรุนแรง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 6 ม.ค.พลิกกลับมาเป็นบวก โดยปิดตลาดที่ 28,703.38 จุด เพิ่มขึ้น 68.50 จุด หรือ +0.24% ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,246.28 จุด เพิ่มขึ้น 11.43 จุด หรือ +0.35% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,071.46 จุด เพิ่มขึ้น 50.70 จุด หรือ +0.56%

ทั้งนี้ เนื่องจากในขณะนี้ เริ่มเข้าใกล้วันที่ 15 ม.ค.ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันลงนามการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐและจีน ทใำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล) เพื่อขานรับการลงนามเฟสแรก และการเดินหน้าเจรจาเฟส 2 โดยนักลงทุนยังไม่เห็นผลกระทบจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ต่อเรื่องดังกล่าว แม้ว่าจีนจะมีความสัมพันธ์อันดีดับอิหร่านก็ตาม

คริสตินา ฮูเปอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์อินเวสโก กล่าวว่า นักลงทุนเริ่มซึมซับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน และหันมาให้ความสนใจต่อแนวโน้มที่เป็นบวกของการเจรจาการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐและจีนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะออกมาตรการต่างๆเพื่อรับมือ หากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านเลวร้ายลงและบั่นทอนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์เวดบุช มองว่า นักลงทุนส่วนหนึ่งยังมองในแง่ดีว่า ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดนานนัก จึงทำให้นักลงทุนเริ่มปรับตัวรับสถานการณ์ดังกล่าว และหันมาให้น้ำหนักกับปัจจัยพื้นฐานในตลาด

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นหุ้นที่เพิ่มขึ้นหนุนตลาดให้กลับมาปิดบวกได้ โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นแอปเปิล บวก 0.8% หุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 1.5% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ทะยานขึ้น 3.05% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 0.26% หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 0.42%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มผู้ประกอบการเดินเรือร่วงลงเนื่องจากความกังวลที่ว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันอาจจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงาน โดย หุ้นโบอิ้ง ปรับตัวลง 0.3% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ส ร่วงลง 1.2% หุ้นเจ็ทบลู แอร์เวย์ส ลดลง 0.5% หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล ปรับตัวลง 0.23% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ดิ่งลง 3.03% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ ร่วงลง 1.4% หุ้นนอร์เวย์เจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้ง ร่วงลง 1.4%

ขณะที่การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังออกมาในทิศทางที่ดี โดยไอเอชเอส มาร์กิต ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.8 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 51.6 ในเดือนพ.ย.