ดาวโจนส์ปิดตลาดบวก 53 จุด เศรษฐกิจฟื้น-เก็งผลประกอบการสดใส

.นักลงทุนซื้อหุ้นสะสม หลังเฟดยืนยันกระตุ้นเศรษฐกิจต่อ-ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย
.ตลาดจับตาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 2 ที่ทอยประกาศออกมา
.หุ้นสาธารณูปโภคพุ่งขึ้น-หุ้นเทคโนโลยี ยังถูกเทขายต่อเนื่อง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,987.02 จุด เพิ่มขึ้น 53.79 จุด หรือ + 0.15% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,360.03 จุด ลดลง 14.27 จุด หรือ -0.33% ดัชแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 14,543.13 จุด ลดลง 101.82 จุด หรือ -0.70%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก โดยนักลงทุนมองเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะที่จับตาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 2 ที่คาดจะออกมาสดใส

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา โดยยืนยันว่า เฟดจะใช้นโยบายการเงินในการสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ และมองว่า เงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งขึ้นในขณะนี้เกิดจากปัจจัยชั่วคราว จากการที่รัฐต่างๆทำการเปิดเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 360,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563 โดยลดลงจากระดับ 386,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. โดยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวขึ้น 1.0% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาอาหารและพลังงาน ขณะที่ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนมิ.ย.

หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้น 1.29% โดยหุ้นพีจีแอนด์อี คอร์ปอเรชั่น บวก 0.5% หุ้นเฟิร์สท์ เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 1.01% หุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น พุ่งขึ้น 1.31% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ปรับตัวขึ้น 1.22%

หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ขยับขึ้น 0.18% หลังธนาคารเปิดเผยกำไรในไตรมาส 2 ที่ระดับ 1.85 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.65 ดอลลาร์/หุ้น

หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) พุ่งขึ้น 3.58% หลังจากแบล็คสโตน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนรายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศซื้อหุ้น 9.9% ในบริษัท AIG คิดเป็นมูลค่า 2.2 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นแบล็คสโตนพุ่งขึ้น 3.92%

อย่างไรก็ดี นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้น Nvidia ดิ่งลง 4.41% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ร่วงลง 2% หุ้นอินเทล ร่วงลง 1.26% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.96% หุ้นแอปเปิล ลดลง 0.45% หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวลง 0.52%

ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 1.01% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.97% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.66% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 3.54%

หุ้น GameStop ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐ ปรับตัวลง 0.48% หลังจากเน็ตฟลิกซ์ประกาศแผนเปิดให้บริการวิดีโอเกมบนแพลตฟอร์มสตรีมมิงของเน็ตฟลิกซ์ภายในปีหน้า

หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ร่วงลง 1.2% หลังบริษัทประกาศเรียกคืนผลิตภัณฑ์สเปรย์กันแดดจำนวน 5 รายการ เนื่องจากผลการตรวจสอบตัวอย่างสินค้าพบว่ามีน้ำมันเบนซินเจือปนในระดับต่ำ ซึ่งข้อมูลที่เผยแพร่โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่า น้ำมันเบนซินเป็นสารก่อมะเร็งหากมีการสัมผัสบ่อยครั้ง และยังสามารถทำลายระบบภูมิคุ้มกันของ่างกาย