- รายงานข่าวระบุ แม้มีการลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรก 15 ม.ค.นี้แต่ยังไม่ลดภาษี
- สหรัฐฯ จะต้องใช้เวลาอีก 10 เดือน .คาดเริ่มลดภาษีนำเข้าจากจีนหลังเลือกตั้งเดือน พ.ย.
- นักลงทุนเริ่มมีความไม่มั่นใจ เทขายหุ้นรอความชัดเจน กดดันดัชนีตลาดปปิดบวกลดลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 14 ม.ค.ที่ 28,939.67 จุด เพิ่มขึ้น 32.62 จุด หรือ +0.11% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,283.15 จุด ลดลง 4.98 จุด หรือ -0.15% ขณะที่ัดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,251.33 จุด ลดลง 22.60 จุด หรือ -0.24%
ดัชนีปิดตลาดย่อลง หลังจากที่บวกขึ้นไปมากกว่า 100 จุด ทะลุ 29,000 06f วันพุธที่ 15 ม.ค.แต่ ทั้งจีนและสหรัฐมีความเข้าใจตรงกันว่า จะต้องใช้เวลาอีกไม่เกิน 10 เดือนนับจากวันลงนาม สหรัฐจึงจะเริ่มทำการทบทวนความคืบหน้าและความเป็นไปได้ในการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติมอีก 3.60 แสนล้านดอลลาร์
ทำให้การเก็บภาษีนำเข้ามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่สหรัฐเรียกเก็บจากจีนในปัจจุบันนั้น จะยังคงมีผลบังคับใช้ไปจนกระทั่งหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีนี้ ส่วนการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าเพิ่มเติมในวันข้างหน้านั้น จะขึ้นอยู่กับว่าจีนจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อตกลงการค้าเฟสแรกหรือไม่
ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่นักลงทุนจำนวนหนึ่งมองว่าข้อพิพาทการค้าระหว่างทั้งสองประเทศอาจจะยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากการค้า และการลงทุนของทั้งสองประเทศเริ่มลดลง
ขณะที่ผลประกอบการที่ทยอยประกาศออกมา หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 5.4% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2562 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
อย่างไรก็ตาาม หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ดีดตัวขึ้น 1.17% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2562 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ เช่นเกียวกับหุ้นซิตี้กรุ๊ป ที่พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 3.3% หลังจากทางสายการบินเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
ขณะที่การเปิดเเผยตัวเลขศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. เทียบรายปีเพิ่มขึ้น 2.3% ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย.
