ดาวโจนส์ปิดตลาดบวกกว่า 372 จุด นักลงทุนหวังเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัว

  • หุ้นเทคโนโลยีดีดขึ้น หนุนดัชนีตลาดหุ้นฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
  • นักลงทุนมองทิศทางเศรษฐกิจดีขึ้น หลังอัตราว่างงานต่ำสุด 50 ปี
  • คาดเฟดปรับลดดอกเบี้ยต่อเป็นครั้งที่ 3 ของปี ประชุมปลายเดือนนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่4 ต.ค.ที่ 26,573.72 จุด พุ่งขึ้น 372.68 จุด หรือ +1.42%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,952.01 จุด เพิ่มขึ้น 41.38 จุด หรือ +1.42% และ ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิท ปิดที่ 7,982.47 จุด ปรับตัวขึ้น 110.21 จุด หรือ +1.40%

ตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 136,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. แม้ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 145,000 ตำแหน่ง

ขณะทีอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี และต่ำกว่าระดับ 3.7% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ ของ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาสราว 79.6%ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะปรับดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.8% หลังมีรายงานว่า บริษัทจะเพิ่มการผลิต iPhone 11 อีกประมาณ 7-8 ล้านเครื่อง หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10% เพื่อตอบสนองความต้องการโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ดังกล่าวที่สูงเกินคาด

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นตามหุ้นแอปเปิล โดยหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ บวก 0.98%, หุ้นอินเทล เพิ่มขึ้น 1.8%, หุ้นเฟซบุ๊ก บวก 0.6%, หุ้นอเมซอนดอทคอม ขยับขึ้น 0.88%,  หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวขึ้น 1.35%

แต่หุ้นเอชพี อิงค์ ดิ่งลง 9.57% หลังบริษัทผู้ผลิตพีซีรายใหญ่ระดับโลกเปิดเผยว่า ทางบริษัทจะปรับลดจำนวนพนักงานลงประมาณ 7,000-9,000 ตำแหน่งทั่วโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิรูปโครงสร้างในปีงบการเงิน 2563
นักลงทุนยังคงจับตาประเด็นการเจรจาการค้าระหว่าง
สหรัฐฯและจีน ในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ รวมทั้งทิศทางการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและยุโรปด้วย