ดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 40 จุด รอดูทิศทางเศรษฐกิจ-ดอกเบี้ย

.นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) นาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้

.ตลาดไร้ปัจจัยใหม่หนุน แต่ผลประกอบการที่ออกมาดีช่วยให้ประคองดัชนีไม่ติดลบ

.นักวิเคราะห์คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 2 โดยรวมแย่ลง สะท้อนเศรษฐกิจชะลอตัว

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,549.26 จุด เพิ่มขึ้น

40.23 จุด หรือ +0.12% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,171.79 จุด เพิ่มขึ้น 58.09 จุด หรือ +0.41% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,511.81 จุด เพิ่มขึ้น 6.39 จุด หรือ +0.14%

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวผันผวน ตลาดขาดปัจจัยชี้นำใหม่ ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าคาดช่วยให้ดัชนียืนในแดนบวก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้น นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

ทั้งนี้ แม้ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จำนวน 30 แห่งเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2/2566 ในวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่ง 80% ในจำนวนดังกล่าวรายงานกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ข้อมูลจาก FactSet ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรลดลง 7% ในไตรมาส 2/2566 ซึ่งจะเป็นผลประกอบการที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2/2563 ซึ่งขณะนั้นกำไรของบริษัทในดัชนี S&P 500 ทรุดตัวลง 31.6%

เช่นเดียวกับข้อมูลจาก Refinitiv ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรลดลง 6.4% ในไตรมาส 2/2566

ด้านทิศทางเศรษฐกิจ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 25-26 ก.ค.

ทั้งนี้ กฎระเบียบของเฟดได้ระบุห้ามเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นต่อสาธารณะ หรือให้สัมภาษณ์ในช่วง Blackout Period เกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่สองก่อนที่การประชุม FOMC จะเริ่มขึ้น และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีหลังการประชุม FOMC

นักลงทุนเทน้ำหนักมากกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในสัปดาห์หน้า โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 96.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า