.ตลาดหุ้นสหรัฐฯ รอดูสถานการณ์เงินเฟ้อ-เศรษฐกิจ-ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
.มีแรงขายทำกำไร หลังดาวโจนส์ดีดขึ้นแรงช่วงก่อนหน้า-อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลง
.นักลงทุนคาดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมปลายเดือนนี้
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,451.41 จุด ลดลง
-178.15 จุด หรือ -0.53% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,340.28 จุด ลดลง 24.13 จุด หรือ -0.21%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,998.47 จุด ลดลง 21.34 จุด หรือ -0.53%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯผันผวน แกว่งตัวในแดนลบ หลังปรับขึ้นมากว่า 600 จุดในช่วง 2 วันทำการก่อนหน้า นักลงทุนซื้อหุ้นตามผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และขายหุ้นลดความเสี่ยง ขณะที่จับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยดัชนีดังกล่าวเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ และสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค ขณะที่ครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลง โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า
บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรในไตรมาส 4/2565 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
โดยมีกำไร 2.35 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.23 ดอลลาร์/หุ้น แต่มีรายได้ 2.371 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.390 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน บริษัทคาดการณ์กำไรในปีนี้ที่ระดับ 10.40-10.60 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.33 ดอลลาร์/หุ้น
เช่นเดียวกับบริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) ที่ประกาศตัวเลขกำไรในไตรมาส 4/2565 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
โดยระบุว่า บริษัทมีกำไร 1.24 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.13 ดอลลาร์/หุ้น อย่างไรก็ดี บริษัทคาดการณ์กำไรในปีนี้ที่ระดับ 1.60-2.00 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.36 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ ตลาดจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ปจะเปิดเผยผลประกอบการหลังปิดตลาดวันนี้
