ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย 39 จุด ผิดหวังผลประกอบการค้าปลีก

NEW YORK CITY - September 3: Charging Bull sculpture with people on September 3, 2015 in New York City. The sculpture is both a popular tourist destination, as well as "one of the most iconic images of New York".


.นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังทาร์เก็ตประกาศกำไรไตรมาส 3ลด50%เทียบปีก่อน

.ตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจโดยรวม หลังยอดค้าปลีกเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.3% สวนทางผลประกอบการทาร์เก็ต

.สถานการณ์ตึงเครียดในยุโรปคลี่คลาย คาดสงครามยูเครนไม่ขยายไปโปแลนด์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 16 พ.ย.ที่ 33,553.83 จุด ลดลง 39.09 จุด หรือ -0.12%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,958.79 จุด ลดลง 32.94 จุด หรือ -0.83% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 11,183.66 จุด ลดลง 174.75 จุด หรือ -1.54%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงซื้อและแรงขายสลับกลุ่ม ตามข่าวที่ออกมา โดยนักลงทุนยังคงรอดูภาพรวมการขยายตัวของเศรษฐกิจ และผลประกอบการไตรมาส3 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศออกมา

บริษัททาร์เก็ตเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3/2565 ร่วงลงราว 50% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 1.54 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.13 ดอลลาร์ เนื่องจากบริษัทต้องปรับลดราคาสินค้าเพื่อระบายสต็อกจำนวนมากที่ยังคงอยู่ในคลังสินค้า นอกจากนี้ ทาร์เก็ตคาดการณ์ว่ายอดขายในไตรมาส 4 อาจชะลอตัวลง เมื่อพิจารณาจากสภาพเศรษฐกิจและผลกระทบของเงินเฟ้อ

ราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงจากความกังวลของนักลงทุนต่อการใช้จ่ายของประชาชน โดยหุ้นทาร์เก็ต ทรุดลง 13.06% หุ้นโลว์ส ร่วงลง 3.01% หุ้นเมซีส์ อิงค์ ดิ่งลง 8.13% หุ้นนอร์ดสตรอม ร่วงลง 8.03% หุ้นโคห์ลส์ คอร์ป ร่วงลง 7.11% หุ้นเบสท์ บาย ดิ่งลง 8.57%

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.3% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.0% โดยได้ปัจจัยหนุนจากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การจัดโปรโมชั่นในวัน Prime Day ของบริษัทแอมะซอนได้ช่วยเพิ่มยอดค้าปลีกในเดือนต.ค.ด้วย

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มผู้ผลิตชิปร่วงลง หลังจากบริษัทไมครอน เทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศแผนปรับลดการผลิตชิปหน่วยความจำและลดการใช้จ่ายด้านทุน โดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ร่วงลง 6.70% หุ้นอินวิเดีย ดิ่งลง 4.54% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) ร่วงลง 4.81% หุ้นอินเทล ร่วงลง 3.84% หุ้นแอปเปิล ลดลง 0.83% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ดิ่งลง 3.3%

นักลงทุนเข้าซื้อหุ้น Defensive ซึ่งเป็นหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี เช่นหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โดยหุ้นพีจีแอนด์อี คอร์ปอเรชั่น พุ่งขึ้น 1.87% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ดีดขึ้น 1.77% หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล บวก 0.89% หุ้นคิมเบอร์ลีย์-คล้าค เพิ่มขึ้น 0.68%

ขณะเดียวดัน ตลาดเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ หลังจากนายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ขีปนาวุธซึ่งถูกยิงตกในโปแลนด์นั้น จะเป็นขีปนาวุธของระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนที่ยิงสกัดขีปนาวุธของรัสเซีย และทำให้ขีปนาวุธพลาดตกในดินแดนของโปแลนด์