ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงกว่า 180 จุด จับตาทิศทางนโยบายการเงินเฟด

  • นักลงทุนเทขายเพื่อลดความเสี่ยง รอดูรายงานนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • ตลาดติดตามผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มค้าปลีก จับตาการใช้จ่ายช่วงโควิด
  • หุ้น AT&T และ Discovery พุ่งขึ้น รับความสำเร็จดีลควบรวมกิจการ

เมื่อเวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,199.58 จุด ลดลง 182.55 จุด หรือ  -0.53% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,344.78 จุด ลดลง 85.20 จุด หรือ -0.63% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี  500 อยู่ที่ระดับ 4,152.88 จุด  ลดลง 20.97 จุด หรือ -0.50%

นักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง โดยจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 27-28 เม.ย.ที่จะมีการเผยแพร่ในวันพุธนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด และสร้างความกังวลให้กับตลาดถึงการปรับขึ้นนโยบายการเงินเร็วกว่าคาด

นักลงทุน ยังจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มค้าปลีก ได้แก่ วอลมาร์ท อิงค์, โฮม ดีโปท์ และเมซีส์ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ภาวะการใช้จ่ายของผู้บริโภค ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

โดยขณะนี้ บริษัทมากกว่า 90% ในดัชนี S&P 500 ได้เสร็จสิ้นการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 1 แล้ว โดยมีจำนวน 86% ที่รายงานตัวเลขกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่สูงเกินคาด ซึ่งเป็นตัวเลขสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่ FactSet เริ่มรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2551

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น AT&T และ Discovery พุ่งขึ้นสวนทางตลาดในวันนี้ ขานรับข่าวที่ว่า AT&T ซึ่งเป็นบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ บรรลุข้อตกลงในการควบรวมกิจการของ Warner Media เข้ากับ Discovery ซึ่งจะสามารถแข่งขันกับบริษัทเน็ตฟลิกซ์ และดิสนีย์ อิงค์ ซึ่งเป็นคู่แข่งในตลาด