ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นกว่า 90 จุด ขานรับความคืบหน้ามาตรการกระ ตุ้นเศรษฐกิจ

.นักลงทุนขานรับความหวังการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
.หุ้นกลุ่มที่ได้รับผลลดีจากการฟื้นเศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น
. ดัชนีภาคการผลิต ก.พ.ปรับเพิ่มขึ้น ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว

เมื่อเวลา 22.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,550.82 จุด เพิ่มขึ้น 92.42 จุด หรือ +0.29% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,132.26 จุด เพิ่มขึ้น 36.79 จุด หรือ+0.26% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,943.05 จุด เพิ่มขึ้น 8.22 จุด หรือ +0.21%

นักลงทุนมีความหวังที่ว่ารัฐบาลสหรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยคาดว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินใกล้เคียงกับที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เสนอที่ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับแนวโน้มที่ว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในสหรัฐอาจจะสูงเกินเป้าหมายของปธน.ไบเดนที่ต้องการฉีดวัคซีนโควิดให้กับประชาชน 100 ล้านโดสภายใน 100 วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งหุ้นธนาคารมอร์แกนสแตนลีย์ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ และหุ้นซิตี้กรุ๊ป ปรับตัวเช่นเดียวกัยหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อนแรง

ด้านภาพรวมเศรษฐกิจ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ปรับตัวขึ้น 8.6 จุด แตะระดับ 12.1 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9 ทั้งนี้ดัชนีมีค่าเป็นบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ภาคธุรกิจยังคงมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น ขณะที่การคาดการณ์ของผู้ผลิตต่อสภาวะธุรกิจในช่วงหกเดือนข้างหน้า ปรับตัวขึ้น 3 จุด แตะระดับ 34.9

นักลงทุนยังติดตามประเด็นการเมือง โดยนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐ ประกาศว่า สภาคองเกรสจะจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นในอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตลาดมองว่าจะช่วยดูแลความเรียบร้อยไม่ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นอีกในอนาคต

นางเพโลซีกล่าวว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะทำการ “ตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริง รวมทั้งสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 ซึ่งมีประชาชนกลุ่มหนึ่งได้บุกเข้าไปโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐ โดยการกระทำดังกล่าวถือเป็นการก่อการร้ายภายในประเทศ นอกจากนี้ คณะกรรมการจะทำการตรวจสอบเรื่องการแทรกแซงการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีด้วย”