ดาวโจนส์ปรับขึ้น 198 จุด ขานรับผลประกอบการสดใส



.นักลงทุนซื้อหุ้นต่อเนื่องรับผลประกอบการไตรมาส3ที่ออกมาสดใส
.หุ้นที่เกี่ยวกับการป้องกันและรักษาโควิด-19ปรับขึ้นยกแผง
.ตลาดจับตาการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 1.6% ในเดือนก.ย.

ชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 19 ต.ค.ที่ 35,457.31 จุด เพิ่มขึ้น 198.70 จุด หรือ +0.56%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,519.63 จุด เพิ่มขึ้น 33.17 จุด หรือ +0.74% และดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 15,129.09 จุด เพิ่มขึ้น 107.28 จุด หรือ +0.71%

นักลงทุนซื้อหุ้นรับผลประกอบการไตรมาส3ที่ออกมาสดใส โดยหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโควิด-19ปรับเพิ่มขึ้นยกแผง ขณะที่มีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มเทคโนโลยีเช่นกัน

หุ้นกลุ่มเฮลแคร์พุ่งขึ้น 1.31% โดยหุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส พุ่งขึ้น 2.17% หุ้นอิไล ลิลลี่ (Eli Lilly) เพิ่มขึ้น 1.39% หุ้นจีเลียด ปรับตัวขึ้น 1.52% หุ้นบริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ พุ่งขึ้น 1.14%

หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน พุ่งขึ้น 2.34% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 3 ที่ระดับ 2.60 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.35 ดอลลาร์/หุ้น โดยได้ปัจจัยหนุนจากยอดขายวัคซีนโควิด-19 ที่มีมูลค่าสูงถึง 502 ล้านดอลลาร์

หุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 1.86% หลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) เปิดเผยผลการศึกษาพบว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์มีประสิทธิภาพ 93% ในการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเป็นเด็กวัย 12-18 ปี ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยขณะนี้ไฟเซอร์กำลังรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่เด็กที่มีอายุ 5-11 ปี

หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค พุ่งขึ้น 3.03% ขานรับข่าวทั่วโลกให้ความสนใจซื้อยาโมลนูพิราเวียร์เพื่อใช้รักษาโรคโควิด-19 ขณะที่รายงานล่าสุดระบุว่าตัวแทนรัฐบาลอินโดนีเซียกำลังเดินทางเยือนสหรัฐเพื่อเตรียมเจรจากับบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค เกี่ยวกับการตั้งโรงงานผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ในอินโดนีเซีย

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) แถลงว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาของ FDA ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญที่เป็นบุคคลภายนอก จะจัดการประชุมในวันที่ 30 พ.ย.เพื่อหารือกันว่าจะให้การอนุมัติใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ของบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ในการรักษาโรคโควิด-19 ในสหรัฐเป็นกรณีฉุกเฉินหรือไม่ โดยหากได้รับการอนุมัติจาก FDA ยาโมลนูพิราเวียร์จะเป็นยาเม็ดรับประทานชนิดแรกในตลาดที่ได้รับการอนุมัติในการรักษาโรคโควิด-19 อย่างเป็นทางการ

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.39% หุ้นแอปเปิล บวก 1.51% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 0.32% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 0.31% หุ้นอินเทล พุ่งขึ้น 1.36%

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทเน็ตฟลิกซ์ และสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 หลังจากตลาดปิดทำการซื้อขาย

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก FactSet ระบุว่า ขณะนี้ บริษัทจำนวน 82% ในดัชนี S&P 500 ที่ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 แล้ว ต่างก็มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 1.6% ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 1.555 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. สวนทางนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.620 ล้านยูนิต จากระดับ 1.580 ล้านยูนิตในเดือนส.ค. โดยการเริ่มต้นสร้างบ้านได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้าง และการขาดแคลนแรงงาน