ดาวโจนส์ปรับขึ้นกว่า 100 จุด นักลงทุนซื้อหุ้นเย้ยเงินเฟ้อพุ่ง



.ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.พุ่ง 6.8% สูงกว่านักวิเคราะห์คาด
.นักลงทุนซื้อหุ้นต่อเนื่อง มองเศรษฐกิจฟื้นต่อเนื่องช่วยหนุนดัชนี
.ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินเฟดวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 35,871.79 จุด เพิ่มขึ้น
117.10 จุด หรือ +0.33% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 15,577.26 จุด เพิ่มขึ้น 59.89 จุด หรือ +0.39% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,690.49 จุด เพิ่มขึ้น 23.04 จุด หรือ +0.49%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในแดนบวก หลังปรับเพิ่มขึ้นแรงในช่วงเปิดตลาด ไม่สนตัวเลขอัตราเงินเฟ้อล่าสุด จะออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด โดยนักลงทุนส่วนหนึ่งมองภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว จะทำให้ทิศทางราคาหุ้นจะสูงขึ้นต่อเนื่อง เป็นปกติในเดือน ธ.ค.ของทุกปี

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 6.8% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2525 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.7% เ มื่อเทียบรายเดือนดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.7%
โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาอาหารและพลังงาน ซึ่งทะยานขึ้นสูงสุดในรอบ 13 ปี เมื่อเทียบรายปี

ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และพุ่งขึ้น 4.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2534 สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์เช่นกัน

นักวิเคราะห์ระบุว่า อีกสาเหตุที่ตลาดหุ้นยังคงดีดตัวขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนได้รับรู้คาดการณ์เงินเฟ้อก่อนหน้านี้แล้ว
นอกจากนี้ ตลาดคลายความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังจากที่ตัวเลข CPI ต่ำกว่าระดับ 7% ที่นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ไว้

ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้ ว่าจะตอบสนองอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมากนี้อย่างไร