ดาวโจนส์บวกเล็กน้อย 10 กว่าจุด รอทิศทางดอกเบี้ย-ผลประกอบการบริษัท



.นักลงทุนคาดผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนออกมาดีน้อยกว่าคาด

.ตลาดคาดเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว ช่วยลดแรงกดดันการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟด

.ดัชนีหุ้นสหรัฐฯผันผวน แกว่งตัวแคบๆ จับตาภาพรวมเศรษฐกิจกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,900.49 จุด เพิ่มขึ้น
14.02 ขุด หรือ +0.04% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,105.02 จุด ลดลง 18.45 จุด หรือ -0.15% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,136.61 จุด ลดลง 1.03 จุด หรือ -0.02%

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยข้อมูลจาก Refinitiv IBES ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรลดลง 5.2% ในไตรมาส 1/2566 หลังจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.4% ในไตรมาสดังกล่าว

นอกจากนี้ ตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
โดยนักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. หลังการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดและตัวเลขเงินเฟ้อเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 11.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%

ทั้งนี้ แม้ว่า สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ชะลอตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ดัชนีดังกล่าวยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ของเฟด

นอกจากนี้ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ผู้บริโภคคาดว่าเงินเฟ้อจะพุ่งแตะระดับ 4.6% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนที่แล้วที่ระดับ 3.6%

นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันที่ 28 เม.ย. โดยดัชนีดังกล่าวเป็นข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญตัวสุดท้ายก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 2-3 พ.ค.

ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนี CPI