

.แรงส่งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังดันดัชนีดาวโจนส์ไปต่อ
.นักลงทุนกลับมากังวลอัตราเงินเฟ้อปรับขึ้น ขณะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังขึ้นต่อเนื่อง
.มีแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่อเนื่อง หลังมองเศรษฐกิจสหรัฐทยอยฟื้น
เมื่อเวลา 22.10 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 32,619.76 จุด เพิ่มขึ้น
134.17 /จุด หรือ +0.41% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,237.48 จุด ลดลง 161.19 จุด หรือ -1.20%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,928.19 จุด ลดลง 11.15 จุด หรือ -0.28%
ดัชนีดาวโจนส์ยังคงเคลื่อนไหวในแดนนบวก ขานรับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของสหรัฐ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้ววานนี้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกลับมามีความกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ จากผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวด้วย นอกจากนั้น ยังกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นจากอุปสงค์ของผู้บริโภคจะขยายตัวขึ้นจากการเปิดเศรษฐกิจ หลังจากที่ถูกกดดันจากมาตรการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวเหนือระดับ 1.6%ในวันนี้
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2552
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 2.8% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2561 หลังจากเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนม.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI จะปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี
ยังคงมีแรงเทขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี และซื้อหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการตอบรับความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะทยอยฟื้นตัว