ดาวโจนส์บวกกว่า 320 จุด มีแรงช้อนซื้อ รอดูทิศทางสงครามยูเครน-ดอกเบี้ย

  • นักลงทุนติดตามสถานการณ์การเจรจราเพื่อยุติสงครามยูเครน-รัสเซีย
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ ติดตามถ้อนแถลงประธานเฟด รอดูทิศทางอัตราดอกเบี้ย-นโยบายการเงิน
  • แถลงการณ์ระบุ เฟดยังขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ แม้วิกฤตการณ์ยูเครนสร้างความไม่แน่นอน

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,619.18
จุด เพิ่มขึ้น 324.23 จุดหรือ +0.97% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,626.27 จุด เพิ่มขึ้น 93.81จุด หรือ +0.69% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,348.64 จุด เพิ่มขึ้น 42.38 จุด หรือ +0.98%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างชาติตะวันตกและรัสเซีย รวมทั้งสงครามที่เกิดขึ้นในยูเครน โดยมองว่า อาจจะมีผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก อย่างไรก็ตาม หลังจากดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ตกลงแรงจากความตื่นตระหนกในช่วงก่อนหน้า เริ่มมีแรงช้อนซื้อหุ้นกลับมา หลังมองว่าสถานการณ์ยูเครนอาจจะไม่จบง่ายๆ แต่จะยืดเยื้อไปอีกระยะหนึ่ง

นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ เพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และนโยบายการเงินของเฟด ท่ามกลางการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ และวิกฤตการณ์ในยูเครน

โดยสื่อรายงานว่าแถลงการณ์ของนายพาวเวลระบุว่า เฟดจะยังคงทำตามแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อแนวโน้มในอนาคต

“เงินเฟ้อที่พุ่งสูงและตลาดแรงงานที่ตึงตัวอย่างมากเป็นสาเหตุที่ทำให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมของเราในเดือนนี้ และเฟดจะทำการปรับลดขนาดงบดุลภายในปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 8.5 ล้านล้านดอลลาร์

แม้ว่า ผลกระทบในระยะใกล้ต่อเศรษฐกิจสหรัฐจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครน, สงครามที่เกิดขึ้น, มาตรการคว่ำบาตร และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป ยังคงมีความไม่แน่นอนอย่างมาก แต่เราจะต้องดำเนินการตามข้อมูลที่ได้รับ และแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไป”

อย่างไรก็ดี นายพาวเวลไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงเท่าใด โดยระบุแต่เพียงว่า เฟดคาดหวังว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงในปีนี้


ด้านออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 400,000 ตำแหน่ง แสดงทิศทางเศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัว