

- นักลงทุนส่วนหนึ่งเข้าช้อนซื้อหุ้นหลังดัชนีปรับลงแรงวานนี้
- ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งทะลุ 60,000 รายต่อวัน หลังหยุดยาววันชาติสหรัฐ
- ยุโรปปรับลดประมาณการเศรษฐกิจ หวั่นสหรัฐติดเชื้อไม่หยุด -เลื่อนแผนคลายล็อกดาวน์
เมื่อเวลา 21.25 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 26,038.42 จุด เพิ่มขึ้น 148.24 จุด หรือ +0.57% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 10,448.25 จุด เพิ่มขึ้น 104.36 จุด หรือ +1.01% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,163.41 จุด เพิ่มขึ้น 18.09 จุด หรือ +0.58%
นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นหลังปรับตัวลงแรงวานนี้ อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นสหรัฐค่อนข้างผันผวน ท่ามกลางความวิตกกังวล หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่า 60,000 รายเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งตรงกันกับสิ่งที่เจ้าหน้าที่เตือนว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะพุ่งขึ้นหลังช่วงวันหยุดเนื่องในวันชาติสหรัฐ
ขณะที่การระบาดรอบสองของโควิด-19 เกิดขึ้นซ้ำในหลายประเทศ ทั้งจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ล่าสุดรัฐบาลท้องถิ่นรัฐวิกตอเรีย ของออสเตรเลีย ได้ประกาศล็อกดาวน์รอบใหม่ในนครเมลเบิร์นซึ่งมีประชากรกว่า 5 ล้านคนเป็นเวลา 6 สัปดาห์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (8 ก.ค.) เพื่อรับมือกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น
คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัวลงรุนแรงขึ้นในปีนี้ และจะดีดตัวขึ้นในปีหน้าในอัตราที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่ฝรั่งเศส, อิตาลี และสเปน เผชิญผลกระทบมากที่สุดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยคาดว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนจะหดตัวลงรุนแรงเป็นประวัติการณ์ถึง 8.7% ในปีนี้ ก่อนจะฟื้นตัวขึ้น 6.1% ในปีหน้า
การปรับลดการประเมินภาวะเศรษฐกิจยูโรโซนครั้งใหม่ เกิดขึ้นเนื่องจากวิตกว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้รัฐต่างๆ ต้องเลื่อนหรือยกเลิกแผนการเปิดดำเนินการธุรกิจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ