

.นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2
.นักวิเคราะห์คาดรายได้-กำไรบริษัทไตรมาส 2 จะออกมาดีกว่าที่คาด
.ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 2% ในเดือนมิ.ย.ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2564
เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,533.83 จุด เพิ่มขึ้น
461.22 จุด หรือ +1.48% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,578.72 จุด เพิ่มขึ้น 218.67 จุด หรือ +1.92% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,896.90 จุด เพิ่มขึ้น 66.05 จุด หรือ +1.72%
นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทเน็ตฟลิกซ์จะรายงานผลประกอบการวันนี้ อยางไรก็ตาม ราคาหุ้นของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ดีดตัวขึ้น ช่วยดันมีแรงซื้อหุ้นดีดดัชนีตลาดปรับเพิ่มสูงขึ้น หลังเปิดเผยว่าบริษัทมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ มีบริษัทราว 9% ในดัชนี S&P 500 ได้เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 2 แล้ว ซึ่งราว 66% ในจำนวนดังกล่าวได้รายงานกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะมีกำไรเพิ่มขึ้น 4.2% ในไตรมาส 2 ขณะที่รายได้พุ่งขึ้น 10.2% รวมทั้งมีกำไรเพิ่มขึ้น 9.9% ในปีนี้
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะชะลอตัว กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 2% ในเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 1.559 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2564 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.580 ล้านยูนิต จากระดับ 1.591 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. การเริ่มต้นสร้างบ้านได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และราคาวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งการขาดแคลนแรงงาน
ทั้งนี้ ตลาดมองว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นไปค่อยไป จะลดแรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงมากๆ เพื่อชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ โดยคาดว่าในการประชุมปลายเดือนนี้ เฟดยังไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยครั้งเดียวถึง 1% ซึ่งจะกระทบเศรษฐกิจมากเกินไป