ดาวโจนส์ถูกกดดันหลังผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งต่อ เคลื่อนไหวติดลบกว่า 100 จุด



.นักลงทุนกังวลดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดความน่าสนใจในหุ้น
.ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงต่ำสุดตั้งแต่เดือน พ.ย.63
.ตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 4 รอบใหม่ออกมาดีกว่าคาดโต 4.1%

เมื่อเวลา 22.10 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,842.85 จุด ลดลง 119.01 จุด หรือ -0.37% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,483.02 จุด ลดลง 114.95 จุด หรือ -0.85% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,901.59 จุด ลดลง 23.84 จุด หรือ -0.61%

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาอ่อนตัวลงอีกครั้ง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวเหนือระดับ 1.46% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2563 ทั้งนี้ นักลงทุนวิตกว่าการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในระดับต่ำ และจะลดความน่าดึงดูดของการลงทุนในหุ้น ทำให้นักลงทุนหันเข้าสู่ตลาดพันธบัตร

พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รถยนต์ของสหรัฐ ซึ่งหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้น จะทำให้เม็ดเงินในการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดน้อยลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มมากขึ้น และบริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

ทั้งนี้ แม้ว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในการแถลงต่อรัฐสภาว่า การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเกิดจากการคาดการณ์เงินเฟ้อและการขยายตัวที่สูงขึ้น รวมทั้งเป็นการส่งสัญญาณความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และยังไม่กดดันเฟด โดยพร้อมจะผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง แต่ตลาดยังกังวลต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ตัวเลขการว่างงานออกมาในทิศทางที่ดีขึ้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 730,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 พ.ย.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 845,000 ราย

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับลดตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ สู่ระดับ 841,000 ราย จากเดิมรายงานที่ระดับ 861,000 ราย จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 101,000 ราย สู่ระดับ 4.42 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 มี.ค.2563

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2563 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 4.1% โดยปรับตัวดีกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 4.0% โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของการส่งออก และการใช้จ่ายของผู้บริโภค แม้ว่าการใช้จ่ายในภาครัฐปรับตัวลง