- นักลงทุนกังวลวิกฤตโควิด-19 ทำอุปสงค์ของน้ำมันลดลงต่ำที่สุดในรอบ 25 ปี
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพ.ค. และมิ.ย.ลดลงต่อเนื่อง
- ทรัมป์สั่งพลังงาน-คลังเตรียมแผนอัดฉีดเงินทุนพยุงรกิจน้ำมัน
เมื่อเวลาประมาณ 21.50 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 23,147.64 จุด ติดลบ
502.80 จุด หรือ -2.13% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหว 8,306.58 จุด ติดลบ 254.14 จุด หรือ -2.97% ด้านดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 2,755.16 จุดลดลง 68.00 จุด -2.41%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงต่อเนื่อง นักลงทุนยังคงมีความกังวลว่า วิกฤตโควิด-19 ได้ทำให้อุปสงค์ของน้ำมันลดลงต่ำที่สุดในรอบ 25 ปี และจะมีผลต่อเนื่องถึงภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ยังคงปรับตัวในแดนลบ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางทั้งในการส่งมอบเดือน พ.ค.และมิ.ย.
สัญญาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งจะหมดอายุวันที่ 21 เม.ย. ยังคงมีราคาติดลบ ซึ่งหมายความว่าผู้ขายน้ำมันยินยอมที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ซื้อ เพื่อแลกกับการลดภาระและค่าใช้จ่ายในการกักเก็บน้ำมัน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายคึกคักกว่าสัญญางวดส่งมอบเดือนพ.ค. ถือเป็นดัชนีชี้วัดมุมมองของนักลงทุนต่อราคาน้ำมันได้ดีกว่า โดยสัญญาดังกล่าวดิ่งลงกว่า 20% สู่ระดับ 16.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลงราว 11% สู่ระดับ 23.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่รัฐบาลทั่วโลกใช้มาตรการล็อกดาวน์ โดยสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และห้ามการเดินทางเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่คลังเก็บน้ำมันของสหรัฐกำลังกักเก็บน้ำมันใกล้เต็มความจุ ท่ามกลางภาวะน้ำมันล้นตลาด ขณะที่สต็อกน้ำมันสหรัฐพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ จากการเข้าไปช่วยเหลือซื้อน้ำมันของรัฐบาลสหรัฐฯ
กองทุนน้ำมันสหรัฐ (USO) ซึ่งเป็นกองทุน ETF สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่เข้าซื้อสัญญาน้ำมันในตลาดฟิวเจอร์ ดิ่งลง 19.3% สู่ระดับ 3.02 ดอลลาร์ในวันนี้
ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า เขาได้สั่งการให้กระทรวงพลังงาน และกระทรวงการคลังสหรัฐ จัดเตรียมแผนในการอัดฉีดเงินทุนให้แก่ธุรกิจน้ำมัน เพื่อรักษาการจ้างงานในอุตสาหกรรมดังกล่าว
“เราจะไม่มีวันปล่อยให้อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซที่ยิ่งใหญ่ของเราต้องล้มลง ผมได้กำชับให้ท่านรัฐมนตรีพลังงาน และรัฐมนตรีคลังจัดเตรียมแผนอัดฉีดเงินทุนให้แก่กลุ่มบริษัทที่มีความสำคัญอย่างมากนี้ เพื่อรักษาการจ้างงานต่อไปในอนาคต” ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
นักลงทุนยังคงจับตาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกจ่อแตะ 2,500,000 ราย และเสียขีวิตกว่า 171,000 ราย ขณะที่สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต
