. นักลงทุนคาดพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันตกลงกันได้เพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ
.ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.
.นักลงทุนซื้อหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นตัว ขานรับตัวเลขดีต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,918.87 จุด เพิ่มขึ้น
501.88 จุด หรือ +1.46% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,732.67 จุด เพิ่มขึ้น 230.76 จุด หรือ +1.59%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,423.48 จุด เพิ่มขึ้น 59.93 จุด หรือ +1.37%
ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวต่อเนื่อง นักลงทุนคาดหวังว่าพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะสามารถประนีประนอมเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ โดยแกนนำพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะทำการหารือกันในวันนี้เกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤตเพดานหนี้ของสหรัฐ หลังจากที่แกนนำพรรคเดโมแครตแสดงท่าทีเปิดกว้างพร้อมรับข้อเสนอของพรรครีพับลิกันในการขยายเพดานหนี้ชั่วคราวไปจนถึงเดือนธ.ค.
นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน กล่าววานนี้ว่า พรรครีพับลิกันจะสนับสนุนการขยายเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐออกไปจนถึงเดือนธ.ค. เพื่อช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
ทั้งนี้ หากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันที่ 18 ต.ค. ก็จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
นอกจากนั้น ตัวเลขคนว่างงานที่ออกมาดี ช่วยหนุนดัชนีให้ดีดขึ้น โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 326,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. จากระดับ 364,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 345,000 ราย
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้พิจารณาในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 450,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
