

.นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)วันที่ 25-26 ก.ค.นี้
.ตลาดคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ก่อนยุติวงจรขึ้นดอกเบี้ยในครั้งหน้า
.นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในสัปดาห์นี้
เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 35,401.80 จุด เพิ่มขึ้น 174.11จุด หรือ 0.49% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,555.26 ตุด เพิ่มขึ้น 18.92 จุด หรือ 0.42% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 14,055.42 จุด เพิ่มขึ้น 22.62 จุด หรือ 0.16%
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ โดยเทน้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 0.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
ทั้งนี้ ตลาดมองว่าเฟดใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีก, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้เป็นครั้งสุดท้ายในปีนี้ และจะคงอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในสัปดาห์นี้ โดยบริษัทอัลฟาเบทและไมโครซอฟท์จะเปิดเผยผลประกอบการหลังปิดตลาดพรุ่งนี้ ขณะที่บริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ จะเปิดเผยหลังปิดตลาดวันพุธ
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยดัชนีดังกล่าวสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.0 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 53.2 ในเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว โดยได้ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6