ดาวโจนส์ดีดกลับทางเทคนิค ปิดบวกแรง 827จุด

NEW YORK CITY - September 3: Charging Bull sculpture with people on September 3, 2015 in New York City. The sculpture is both a popular tourist destination, as well as "one of the most iconic images of New York".


.ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ย.เพิ่มขึ้น 8.2% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
.ตลาดหุ้นสหรัฐฯดีดกลับทางเทคนิค หลังราคาหุ้นร่วงแรงต่อเนื่อง
.นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3ที่จะเริ่มประกาศวันนี้

ชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 13ต.ค.ที่ 30,038.72 จุด เพิ่มขึ้น 827.87 จุด หรือ +2.83%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,669.91 จุด เพิ่มขึ้น 92.88 จุด หรือ +2.60% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 10,649.15 จุด เพิ่มขึ้น 232.05 จุด หรือ +2.23%

ตลาดหุ้นปิดพุ่งขึ้นจากแรงซื้อทางเทคนิค หลังตลาดติดลบ 6 วันติดต่อกัน และร่วงลงอย่างหนักในการซื้อขายช่วงเช้า โดยตลาดยังคงถูกกดดันจากการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย.ที่สูงเกินคาด ซึ่งได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงต่อไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (13 ต.ค.) ว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 8.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 8.1% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 0.3%

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.6% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 6.5% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. โดยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง

อย่างไรก็ตาม มีแรงซื้อทางเทคนิคเข้ามา หลังดัชนีดาวโจนส์อยู่ในจุดที่ต่ำลงมาก โดยร่วงลงเกือบ 550 จุดแตะระดับต่ำสุดของวัน หลังจากนั้นดัชนีดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง และดีดตัวเป็นเปอร์เซ็นต์วันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 2563

ดัชนี S&P500 พุ่งขึ้นเกือบ 194 จุด ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นระหว่างวันมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. และนักวิเคราะห์บางรายระบุว่า ดัชนี S&P500 มีแนวรับทางเทคนิคอยู่ที่ราวระดับ 3,500 จุด

มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นแทบทุกกลุ่ม โดยหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มพลังงาน พุ่งขึ้นมากที่สุด 4.14% และ 4.08% ตามลำดับ

นักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3/2565 ของบริษัทจดทะเบียน โดยจะเริ่มจากบรรดาธนาคารขนาดใหญ่ในวันศุกร์นี้ (14 ต.ค.) เพื่อดูว่า ภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อผลกำไร

หุ้นวอลกรีนส์ บูตส์ อัลไลแอนซ์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีก พุ่งขึ้น 5.4% หลังเปิดเผยผลประกอบการดีกว่าคาด

หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่ง 5.3% หลังเปิดเผยว่าบริษัทจะคิดค่าบริการ 6.99 ดอลลาร์สำหรับการสมัครสมาชิกแบบมีโฆษณา

หุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 2.3% หลังเปิดเผยว่า ข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกเฟส 2/3 บ่งชี้ว่า วัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นซึ่งเป็นชนิดไบวาเลนต์ (bivalent) ในการป้องกันไวรัสโอมิครอน 2 สายพันธุ์ย่อย (BA.4/BA.5) นั้นให้ผลในเชิงบวกในการปกป้องผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป