ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 600 จุด เศรษฐกิจสหรัฐซมพิษ โควิด-19 ทรุดกว่าที่คาด

  • เฟดนิวยอร์ก เผยดัชนีภาคการผลิตเม.ย.แตะ -78.2 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
  • คนไม่เดินทาง ทำน้ำมันขายไม่ออก สัญญาล่วงหน้า WTI หลุด 20 เหรียญต่อบาร์เรล
  • อยู่บ้านเพื่อชาติ ทำของขายไม่ออก ยอดค้าปลีกทรุดตัวลง 8.7% ในเดือนมี.ค

เมื่อเวลาประมาณ 21.40 น.ดัชนีอุตสาหหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 23,287.33 จุด ลดลง 662.43 จุด หรือ
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 2,764.77 จุด ลดลง 81.29 จุด หรือ -2.86% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 8,334.31 จุด ลดลง 181.43 จุด หรือ -2.13%


ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาดิ่งลงอีกครั้ง หลังจากเพิ่มขึ้นวานนี้ นักลงทุนกังวลผลกระทบจากโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจสหรัฐที่รุนแรงกว่าที่คาด ขณะที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง โดยประธานาธิบดีทรัมป์ คาดว่า อย่างเร็วที่สุดจะเปิดเศรษฐกิจได้อีกคั้งในช่วงต้นเดือน พ.ค.นี้


ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดิ่งลงแตะระดับ -78.2 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -32.5


ดัชนีภาคการผลิตยังปรับตัวต่ำกว่าระดับ -34.3 ที่ทำไว้ในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงิน โดยในบรรดาบริษัทที่ได้รับการสำรวจ มีเพียง 7% ที่รายงานว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ขณะที่ 85% รายงานภาวะธุรกิจย่ำแย่ลง


ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงลงเกือบ 2% หลุดระดับ 20 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนกังวลภาวะน้ำมันล้นตลาด ขณะที่อุปสงค์ทรุดตัวลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่สามารถผลักดันราคาปรับขึ้นได้


สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานระบุว่า วิกฤตการณ์จากแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันทั่วโลก ขณะที่ประเทศต่างๆพากันออกมาตรการจำกัดการเดินทาง โดยกิจกรรมในภาคขนส่งได้ดิ่งลงอย่างหนักในเกือบทุกประเทศ จากการที่มีมาตรการล็อกดาวน์ใน 187 ประเทศทั่วโลก


ผลจากเศรษฐกิจที่แย่ลง ส่งผลต่อการใช้จ่ายของคนอเมริกากระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกทรุดตัวลง 8.7% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการดิ่งลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ที่รัฐบาลเริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวตั้งแต่ปี 2535 และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะร่วงลง 8.0% หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนก.พ.


ยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีการปิดร้านค้า ประชาชนอยู่บ้าน ลดการใช้จ่าย รวมทั้งลดการเดินทาง ซึ่งทำให้ยอดขายของสถานีบริการน้ำมันลดลงต่อเนื่อง


ส่วนการประกาศผลประกอบการ โกลด์แมน แซคส์, ซิตี้กรุ๊ป และแบงก์ ออฟ อเมริกาต่างรายงานตัวเลขกำไรดิ่งลงในไตรมาส 1 อันเนื่องจากผลกระทบของโควิด-19