ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 500 จุด หลุด 26,000 จุดหวั่น หวั่นจีนใช้“สงครามค่าเงิน” ซ้ำเติมพิษสงครามการค้า

  • ค่าเงินหยวนอ่อนค่าแตะจุดต่ำสุดในรอบ 11 ปี
  • นักวิเคราะห์ชี้จีนตั้งใจปล่อยหยวนอ่อนตอบโต้การค้าสหรัฐฯ
  • ประธานาธิบดี“ทรัมป์” ทวีตตั้งข้อกล่าวหา “จีนปั่นค่าเงิน”

เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 25,934.86 ปรับตัวลดลง 550.15 จุด หรือ-2.08% ดิ่งลงอย่างหนักทันทีตั้งแต่เปิดตลาด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิทอยู่ที่ 7,783.94 จุด ลดลง 220.13 จุด หรือ 2.70% ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.2559 ด้านดัชนีเอสแอนพี 500 ปรับตัวลดลงเช่นกันโดยลดลง 62.88 จุด เคลื่อนไหวอยู่ที่ 2,869.37 จุด ลดลง -2.14%

ดัชนีหุ้นสหรัฐลดลงครั้งมโหฬาร หลังนักลงทุนมีความกังวล สงครามการค้าระหว่างจีนสหรัฐฯ ที่ปะทุรอบใหม่ และมีท่าทีจะรุนแรงกว่าเดิม เมื่ออาจจะมีการใช้ “สงครามการค่าเงิน” มาใช้ในการต่อสู้ร่วมด้วย

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 1.75% ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2559 หลังจากที่จีนปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงอย่างมาก เพื่อตอบโต้คำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ต่อสินค้านำเข้าจากจีน

ค่าเงินหยวนทรุดของจีนตัวลงต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯในวันนี้ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี โดยค่าเงินหยวนในตลาดการเงินของจีนดิ่งลงแตะระดับ 7.04 เทียบดอลลาร์สหรัฐฯ

ส่งผลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความกล่าวหาจีนว่ากำลังปั่นค่าเงิน หลังจากที่หยวนทรุดตัวลงต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ในวันนี้ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี โดนระบุว่า “จีนปล่อยให้หยวนดิ่งลงใกล้แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สิ่งนี้เรียกว่า ‘การปั่นค่าเงิน'”

อย่างไรก็ดี นายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวยืนยันว่า จีนจะไม่ใช้หยวนเป็นเครื่องมือในการทำสงครามการค้า
โดยระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนหยวนในขณะนี้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของจีน รวมทั้งอุปสงค์และอุปทานในตลาด

ขณะที่ เว็บไซต์ของธนาคารกลางจีนระบุว่า จีนจะไม่ลดค่าเงินหยวนเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้า โดยจีนจะดูแลอัตราแลกเปลี่ยนให้มีเสถียรภาพ และดำเนินนโยบายปริวรรตเงินตราที่มีความต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า การที่จีนปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงอย่างมาก ถือเป็นมาตรการตอบโต้คำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน หลังจากที่ธนาคารกลางจีนเคยสร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลกในปี 2558 โดยการประกาศปรับลดค่าเงินหยวนในปีดังกล่าว เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออก และกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

ขณะที่หุ้นโบอิ้งและแคทเธอร์ พิลลาร์ดิ่งลงทันทีตั้งแต่เปิดการซื้อขาย ซึ่งหุ้นของบริษัททั้งสองถือเป็นตัวชี้วัดสภาวะการค้าของสหรัฐ เนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศ