

- มีแรงขายหุ้นทุกกลุ่ม นักลงทุนกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรงทุบเศรษฐกิจ
- นักลงทุนบางส่วนกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยถึง 0.75% หลังเดือน พ.ค.
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังมีแรงซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,423.50 จุด ลดลง 387.90 จุด หรือ -1.15% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,783.15 จุด ลดลง 56.15 จุด หรือ -0.44% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,222.89 จุด ลดลง 48.89 จุด หรือ -1.14%
หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวลง นำโดยกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันทรุดตัวลงกว่า 5% รวมทั้ง ความผิดหวังต่อการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน นอกจากนี้ นักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และระบุว่ามีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค. ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543
นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นหลังเดือนพ.ค. โดยอาจปรับขึ้น 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทแอปเปิล, ไมโครซอฟท์, แอมะซอน, อัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล รวมทั้งบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ หรือเฟซบุ๊ก
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของบริษัททวิตเตอร์ อิงค์พุ่งขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นเทสลา อิงค์ร่วงลง หลังแหล่งข่าวระบุว่า นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา ใกล้บรรลุข้อตกลงในการซื้อกิจการทวิตเตอร์ โดยอาจมีการแถลงข่าวในวันนี้ โดยนายมัสก์ได้เสนอซื้อหุ้น 100% ของทวิตเตอร์ โดยให้ราคาหุ้นละ 54.20 ดอลลาร์ คิดเป็นวงเงิน 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 1.4 ล้านล้านบาท