ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 300 จุด เปิดตลาดหลังหยุดวันแรงงาน สงครามการค้าไม่ยุติ

  • จีนฟ้องดับเบิ้ลยูทีโอสหรัฐฯขึ้นภาษีผิดข้อตกลงการค้า
  • ขณะที่ทรัมป์ขู่หากชนะเลือกตั้งครั้งหน้าจีนลำบากกว่านี้แน่
  • นักลงทุนจับตา ความไม่แน่นอน “ศึกเบรกซิท-อังกฤษ “

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 26,070.75 จุดปรับลดลง 332.53 จุด หรือ -1.26% ขณะที่ดัชนีแนสแด็กส์ คอมโพซิส เคลื่อนไหวอยู่ที่ 7,899.58 จุด ปรับลดลง 63.30 จุด หรือ -0.79% ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 2,905.01 จุด ติดลบ 21.45 จุด หรือ-0.73%

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันแรงงาน รัฐบาลจีนได้ยื่นฟ้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) ต่อกรณีที่การที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน โดยจีนอ้างว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดฉันทามติที่ผู้นำของทั้งสองฝ่ายทำไว้ที่นครโอซากา

โดยในวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ดำเนินเก็บภาษีรอบใหม่ 15% ต่อสินค้านำเข้าจากจีน ขณะที่จีนก็ได้เรียกเก็บภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ในวันเดียวกัน ส่งผลให้เมื่อเปิดทำการในเช้าวันอังคารนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวดิ่งลงทันทีทั้ง 3 ตลาด

ขณะที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ทวีตข้อความในวันนี้ โดยพยายยามกดดันให้จีนรีบทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ในขณะนี้ เพราะหากเขาชนะการเลือกตั้งในปีหน้า และกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกสมัยหนึ่ง การทำข้อตกลงทางการค้าจะยากลำบากมากขึ้น

“เรากำลังทำได้ดีในการเจรจาการค้ากับจีน ซึ่งผมมั่นใจว่าพวกเขาต้องการเจรจากับรัฐบาลชุดใหม่เพื่อให้สามารถขูดรีดสหรัฐต่อไป แต่ระยะเวลากว่า 16 เดือน ถือเป็นเวลานานที่สหรัฐฯจะต้องสูญเสียการจ้างงาน และบริษัทหลายแห่ง โดยขอให้คิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับจีน ถ้าหากผมชนะการเลือกตั้ง การทำข้อตกลงก็จะยากลำบากมากขึ้น โดยในระหว่างนี้ ห่วงโซ่อุปทานของจีนจะทรุดตัวลง ขณะที่ธุรกิจ การจ้างงาน และเม็ดเงินก็จะหายไปด้วย”

ขณะที่ นักลงทุนยังจับตาความไม่แน่นอนของปัจจัยการเมืองในอังกฤษ หลังจากที่สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ รวมทั้งสมาชิกบางรายที่แปรพักตร์จากพรรคร่วมรัฐบาล ได้เข้าชื่อเพื่อยื่นขออภิปรายฉุกเฉินในรัฐสภาวันนี้ ในความพยายามที่จะสกัดนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี มิให้นำอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 31 ต.ค. โดยไม่มีการทำข้อตกลง