

.นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อ เก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3 หลังหลายบริษัทเปิดเผยรายได้ดีกว่าคาด
.อเมริกัน แอร์ไลน์ (AA) ประกาศมีรายได้ 1.346 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์
.ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่แล้วลดลง อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์
เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 30,742.88 จุด เพิ่มขึ้น
319.07 จุด หรือ +1.05% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 10,816.58 จุด เพิ่มขึ้น 136.07 จุด หรือ +1.27% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,725.73 จุด เพิ่มขึ้น 30.57 จุด หรือ +0.83%
นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นคึกคัก หลังผลประกอบการบริษัทขาดใหญ่ที่ทยอยประกาศออกมาดีกว่าคาด ราคาหุ้นบริษัท AT&T และ IBM พุ่งขึ้น 9% และ 4.5% ตามลำดับ หลังเปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าคาด
เช่นเดียวกับสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ (AA) ซึ่งเป็นสายการบินใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยรายได้และกำไรในไตรมาส 3 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้ปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวขึ้นของอุตสาหกรรมการบินในสหรัฐ โดยบริษัทมีกำไร 69 เซนต์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 56 เซนต์/หุ้น ขณะที่มีรายได้ 1.346 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.342 หมื่นล้านดอลลาร์
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 214,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 230,000 ราย
นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ
นักลงทุนยังคงจับตาทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งการปรับตัวของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนพ.ย.และธ.ค. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% จำนวน 5 ครั้งติดต่อกัน หลังจากปรับขึ้น 0.75% ในเดือนมิ.ย.,ก.ค.และก.ย. ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดจะพุ่งแตะระดับ 4.50-4.75% ในสิ้นปีนี้