ดาวโจนส์กลับมาเปิดในแดนบวกนักลงทุน มองทั่วโลกทยอยเปิดเมือง ดีต่อเศรษฐกิจ

  • รัฐอลาสกา-จอร์เจีย-เซาธ์ แคโรไลนา-เทนเนสซี-เท็กซัส และนิวยอร์ก เริ่มทยอยเปิดเศรษฐกิจ
  • นักลงทุนมีความหวังเศรษฐกิจจะไม่ทรุดฮวบกว่านี้ แม้โควิด-19 ยังระบาดรุนแรงทั่วสหรัฐ
  • ราคาน้ำมันโลกดิ่งลงอีกรอบ -ตลาดมองประชุมเฟดตรึงดอกเบี้ยต่อเนื่อง

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เปิดตลาดสัปดาห์ในแดนบวกอีกครั้ง โดยดาวโจนส์ เปิดตลาดในวันแรกของสัปดาห์ในแดนบวกมาหลายสัปดาห์ต่อเนื่อง แต่ไม่เคยบวกติดกันได้ทั้งสัปดาห์มาตลอดหลานเดือน โดยล่าสุด เมื่อเวลา 21.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีเคลื่อนไหวที่ 23,937.75 จุด เพิ่มขึ้น 162.48 จุด+0.68%ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 8,742.31 จุด เพิ่มขึ้น 107.79 จุด หรือ +1.25% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 2,860.91 จุด เพิ่มขึ้น 24.17 จุด หรือ +0.87%

แม้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกและเศรษฐกิจสหรัฐอย่างรุนแรง แต่การที่หลายพื้นที่ในโลกเริ่มคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น และมีแนวคิดที่จะเริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ในบางประเทศที่การแพร่ระบาดยังรุนแรงก็ตาม ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ผลกระทบจากโควิด-19 จะไม่รุ

ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ ยังคงรุนแรงมาก โดยมีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก และคาดกันว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจะแตะระดับ 1 ล้านคนในเร็วๆนี้ แต่รัฐอลาสกา, จอร์เจีย, เซาธ์ แคโรไลนา, เทนเนสซี และเท็กซัส ก็ได้เริ่มให้ร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการแก่ลูกค้า โดยรัฐจอร์เจียเริ่มให้บริการแล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา และที่เหลือเริ่มในวันจันทร์นี้เป็นวันแรก

ขณะที่นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เปิดเผยว่า รัฐนิวยอร์กจะเริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยจะใช้กลยุทธ์เปิดเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยคาดว่าจะมีการเปิดภาคการก่อสร้างและการผลิตในเฟสแรก ส่วนเฟสสองจะมีการประเมินธุรกิจเป็นรายกรณี โดยขึ้นอยู่กับความสำคัญของธุรกิจดังกล่าว

“การอนุญาตเพิ่มขึ้นในแต่ละเฟสจะห่างกัน 2 สัปดาห์ เพื่อตรวจสอบผลกระทบของการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง และสร้างความมั่นใจว่าอัตราผู้ที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้ติดเชื้อจะไม่เพิ่มขึ้น”

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ทรุดตัวลงอีกครั้งกว่า 25% หลุดระดับ 13 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยนักลงทุนกลับมาวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด ขณะที่คลังเก็บน้ำมันของสหรัฐกำลังกักเก็บน้ำมันใกล้เต็มความจุ ตรงกับข้ามกับความต้องการน้ำมันที่ดิ่งลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังไม่มีทีท่าจะสงบลงได้ในเวลาอันรวดเร็ว

นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% หลังจากที่ได้ดำเนินมาตรการผ่อนคลายมาแล้วเป็นเงินจำนวนมหาศาล และนักลงทุนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อเศรษฐกิจที่ธนาคารกลางทั่วโลกต่างออกมาช่วยพยุงเศรษฐกิจของตัวเอง