

.ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าคาด ช่วยให้นักลงทุนกลับมาช้อนซื้อหุ้น
.ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกล่าสุดกลับมาลดลง สวนทางนักวิเคราะห์มองจะปรับเพิ่มขึ้น
. นักลงทุนกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังการประมาณการจีดีพีไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,489.83จุด เพิ่มขึ้น 187.96 จุด หรือ +0.56% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,007.42 จุด เพิ่มขึ้น 153.07 จุด หรือ +1.29% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,089.02 จุดเพิ่มขึ้น 33.03 จุด หรือ +0.82%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาดีดตัวขึ้น จากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ รวมทั้งแคทเธอร์ พิลลาร์, คอมแคสต์ และเฮิร์ซ ขณะที่ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทแอมะซอนและอินเทลหลังจากปิดตลาดวันนี้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนกังวลว่าสหรัฐจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2566 ที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้ หลังจากได้รับกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 1/2566 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเพียง 1.1% ในไตรมาสดังกล่าว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.0%
ตัวเลขการขยายตัวดังกล่าว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ในแบบจำลองที่เฟดสาขาแอตแลนตาเปิดเผยวานนี้ ซึ่งระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.1% ในไตรมาส 1/2566
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 249,000 ราย ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 1.86 ล้านราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลงสู่ระดับ 236,000 ราย
ตลาดยังจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันพรุ่งนี้ โดยดัชนีดังกล่าวเป็นข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญตัวสุดท้ายก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 2-3 พ.ค.