

- ดัชนีแนสแด็กกลับมายืนแดนลบ หลังทำลายสถิติสูงสุดเมื่อวานนี้
- นักลงทุนยังคงกังวลกับความขัดแย้งระหว่างจีน และสหรัฐที่เพิ่มขึ้น
- ผู้ยื่นขอสินเชื่อเที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 1% สัปดาห์ที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้น 27% เทียบปีที่แล้ว
เมื่อเวลาประมาณ 21.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงเคลื่อนไหวผันผวน ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ กลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกหลังจากติดลบต่อเนื่องมาหลายวัน โดยเคลื่อนไหวที่ระดับ 27,882.92 จุด เพิ่มขึ้น 104.85 จุด หรือ +0.38% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวกลับมาอยู่ในแดนลบเล็กน้อย หลังจากพุ่งทำลายสถิติสูงสุดใหม่เมื่อวานนี้ โดยอยู่ที่ 11,200.76 จุด ลดลง 10.08 จุด หรือ -0.09% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 แทบไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ระดับ 3,391.26 จุด บวก 1.48 จุด หรือ +0.04%
ผลประกอบการบริษัทค้่าปลีกที่ยังออกมาดีกว่าคาดต่อเนื่อง หนุนแรงซื้อให้เพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นทิศทางที่ว่า นโยบายการคลายล๊อกดาวน์เป็นโอกาสในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยวันนี้ว่า บริษัทมีกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2 โดยได้แรงหนุนจากลูกค้ารายใหม่ผ่านระบบออนไลน์ เช่นเดียวกับบริษัทโลว์ส ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ของสหรัฐ และเป็นคู่แข่งของบริษัทโฮม ดีโปท์ อิงค์ เปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2 โดยบริษัทมีกำไรพุ่งขึ้น 68.7% และรายได้ดีดตัวขึ้น 30% ในไตรมาส 2 เนื่องจากผู้บริโภคเพิ่มการใช้จ่ายด้านการตกแต่งบ้าน เนื่องจากมีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น ขณะที่ลดการใช้จ่ายด้านการเดินทาง และการรับประทานในร้านอาหารในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลกับความขัดแย้งระหว่างจีน และสหรัฐที่เพิ่มขึ้น โดยจีนเริ่มกลับมาตอบโต้ นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้ออกโรงตอบโต้สหรัฐที่ประกาศข้อจำกัดเพิ่มเติมกับหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งเป็นธุรกิจโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐแก้ไขข้อผิดพลาด หยุดใส่ร้ายจีน และหยุดกดขี่บรรดาบริษัทจีนโดยทันที
นายจ้าวกล่าวว่า สหรัฐได้นำประเด็นเรื่องความมั่นคงแห่งชาติและอำนาจรัฐมาใช้ในทางที่ผิด สหรัฐละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศ ทั้งยังสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก การกระทำของสหรัฐจะบ่อนทำลายผลประโยชน์ของชาติและภาพลักษณ์ของสหรัฐเอง
ขณะเดียวกันตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่ออกมาวันนี้ ยังไม่แสดงการฟื้นตัวที่ชัดเจนจนสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน โดยสมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 3.3% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ ำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 5% แต่เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 1% และเพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปีพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.13% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ จากระดับ 3.06% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นอกจากนั้น นักลงทุนยังจับตารายงานการประชุมวันที่ 28-29 ก.ค.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันนี้ ซึ่งในการประชุมดังกล่าว คณะกรรมการเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ให้คำมั่นว่า เฟดจะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ หลังการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
%%%%%%%%